เนื้อหาในหมวด ข่าว

บีบหัวใจแม่ บังเอิญเปิดกล้องเห็นลูกชาย “นั่งเหม่อ” กลางบ้านตอน 5 ทุ่ม รู้สาเหตุเศร้ากันหมด (มีคลิป)

บีบหัวใจแม่ บังเอิญเปิดกล้องเห็นลูกชาย “นั่งเหม่อ” กลางบ้านตอน 5 ทุ่ม รู้สาเหตุเศร้ากันหมด (มีคลิป)

บีบหัวใจแม่ เช็กวงจรปิดบังเอิญเห็น "ลูกชาย" นั่งเหม่อนิ่งๆ กลางห้องนั่งเล่นตอน 5 ทุ่ม รู้เป็นอะไรชาวเน็ตเศร้าตาม

เมื่อเร็วๆ นี้โซเชียลเน็ตเวิร์กถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว โดยโพสต์ของคุณแม่ชาวจีน เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ที่บันทึกฉากนักเรียนชายนั่งเฉยๆ กลางห้องนั่งเล่น ในเวลา 23.00 น. เป็นเพียงคลิปสั้นๆ แต่ก่อให้เกิดการฉุกคิดได้อย่างมาก

เกิดอะไรขึ้นกับนักเรียนชายคนนี้?

ตรมข้อมูลที่คุณแม่เปิดเผย เป็นที่ทราบกันดีว่าลูกชายของเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ทุกวันจะออกจากบ้านเวลา 6.00 น. เพื่อไปโรงเรียน และกลับบ้านหลังจากเรียนคาบพิเศษสุดท้ายเสร็จเท่านั้น โดยปกติคือเวลา 23.00 น.

คืนหนึ่งขณะบังเอิญเช็กกล้องวงจรปิด ผู้เป็นแม่เห็นช่วงเวลาที่ลูกชายกลับบ้านอย่างเหนื่อยล้าหลังจากเรียนหนังสือมาทั้งวันทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในบ้านก็เดินไปที่โซฟาและทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรง ใบหน้าแสดงความเหนื่อยล้า ดวงตาว่างเปล่า ดูเหมือนว่าแม้แต่การคิดก็กลายเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย

ฉากนี้ทำให้ผู้เป็นแม่เสียใจอย่างยิ่ง เพราะเธอรักลูกชายมากๆ และในขณะเดียวกันเธอก็เข้าใจสภาพแวดล้อมและการแข่งขันหลายสิ่งหลายอย่างในสังคมปัจจุบันด้วย

“ทุกวันลูกตื่นนอนตอน 6 โมงเช้าเพื่อไปโรงเรียน และไม่กลับบ้านจนถึง 5 ทุ่ม ฉันเห็นลูกเดินเข้ามาในบ้าน โยนกระเป๋านักเรียนลงบนพื้น และเอนกายบนโซฟาเหมือนลูกบอลที่แฟบลง ทันใดนั้นฉันก็ตระหนักได้ว่ามีหลายสิ่งที่จริงๆ แล้วไม่ได้สำคัญขนาดนั้น

ทุกคนมีจุดแข็งและจุดอ่อน การเรียนหนังสือไม่เก่งไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนไม่เก่ง เด็กทุกคนคือเมล็ดพันธุ์ เพียงแต่ว่าเวลาที่ออกดอกและออกผลนั้นแตกต่างกัน เราทุกคนก็เป็นคนธรรมดา ควรยอมรับความปกติของลูกๆ อย่างใจเย็น และสร้างสภาพแวดล้อมครอบครัวที่ดีเพื่อให้ลูกๆ ของเราเติบโตได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข

เวลาที่ลูกๆ ของเราอยู่กับเรานั้นสั้นมาก ดังนั้นโปรดรักษาช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเมื่อคุณอยู่กับพวกเขา อดทนมากขึ้นอีกนิดและดุด่าให้น้อยลง ” ผู้เป็นแม่เล่า

วิดีโอของนักเรียนชายที่นั่งอย่างเหน็ดเหนื่อยบนโซฟาดึงดูดผู้ชมนับล้าน และข้อความจากมุมมองของคนเป็นแม่ก็ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ตอย่างรวดเร็ว นอกจากกำลังใจและความเห็นอกเห็นใจแล้ว หลายคนยังกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันทางวิชาการของระบบการศึกษาในปัจจุบันอีกด้วย

จะเห็นได้ว่านักเรียนทุกวันนี้มีตารางเรียนที่แน่นตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนถึงปลายสัปดาห์ ไม่เพียงแต่ต้องรับกับความรู้มากมายเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างสมดุลในการไล่ตามความปรารถนาของตนเอง และเติมเต็มความคาดหวังของครอบครัวด้วย

นักเรียนจะต้องแสดงความสามารถผ่านชุดข้อสอบ  ตั้งแต่การทดสอบย่อยเป็นระยะ ไปจนถึงการสอบที่สำคัญต่างๆ ทำให้แทบจะไม่มีเวลาส่วนตัว การนอนหลับวันละ 8 ชั่วโมงกลายเป็นเรื่องที่เกินฝัน ยังไม่รวมกับการยัดเยียดภาพลักษณ์ของ “ลูกที่น่าชื่นชม” จากผู้ใหญ่และสังคมเพิ่มความกดดันให้กับคนรุ่นใหม่

การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศยังเพิ่มแรงกดดันนี้โดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย นักเรียนไม่เพียงแต่เรียนรู้ในชั้นเรียนเท่านั้น แต่ยังต้องเรียนออนไลน์ต่อที่บ้าน เข้าร่วมหลักสูตรพิเศษ และเรียนด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต พวกเขาต้องบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ตรงตามกำหนดกรอบเวลา แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำสิ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย

ความกดดันมีมากจนนักเรียนหลายคนรู้สึกเหนื่อย หมดแรง และไม่สนใจเรียนอีกต่อไป พวกเขาเริ่มสงสัยในตัวเอง ในการเดินทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย ที่สำคัญคือความเครียดและความวิตกกังวลนั้น ไม่เพียงส่งผลต่อผลการเรียนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตด้วย 

นักวิจัยให้ AI ทำนายหน้าตามนุษย์ในอีก 25 ปีข้างหน้า ภาพผลลัพธ์ชวนสะพรึง!

นักวิจัยให้ AI ทำนายหน้าตามนุษย์ในอีก 25 ปีข้างหน้า ภาพผลลัพธ์ชวนสะพรึง!

นักวิจัยให้ AI ทำนายหน้าตามนุษย์ในอีก 25 ปีข้างหน้า ภาพผลลัพธ์ชวนสะพรึง เตือนคนในปัจจุบันเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตด่วน

ไม่ใช่ผักหรือปลา! อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ได้คะแนนโภชนาการ 97 เต็ม 100

ไม่ใช่ผักหรือปลา! อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ได้คะแนนโภชนาการ 97 เต็ม 100

ไม่ใช่ผักหรือปลา! อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุด อันดับ 1 ของโลก ได้คะแนนโภชนาการ 97 เต็ม 100 ที่ไทยก็มีขาย