หมอตะลึง คนไข้ "มะเร็งระยะสุดท้าย" จู่ๆ เนื้องอกหายเกลี้ยง 8 ก้อน เผยเคล็ดลับกินสิ่งนี้!
หญิงชราวัย 83 ตรวจเจอเนื้องอกในตับ เสี่ยงมะเร็งอย่างสูง แต่ผ่าตัดไม่ได้ หมอแนะลองกินผักชนิดนี้ 7 เดือน "หายไป" อัลตราซาวนด์หาไม่เจอ
ดร.เฉียน เจิ้งหง ผู้เชี่ยวชาญด้านตับและทางเดินอาหารชาวไต้หวัน เล่าถึงกรณีหญิงวัย 83 ปี ตรวจพบว่ามีเนื้องอกในตับขนาด 1.9 ซม. ดัชนีการตรวจคัดกรองมะเร็งตับเพิ่มขึ้นเป็น 4925ng/ml เป็นที่ทราบกันว่าดัชนี AFP (Alpha-Fetoprotein Tumor Marker) จะถือว่าปกติก็ต่อเมื่อต่ำกว่า 20ng/ml เมื่อดัชนีนี้สูงกว่าระดับมาตรฐาน จึงต้องมีการตรวจเชิงลึกเพื่อดูว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งตับหรือไม่
ผู้หญิงรายรายนี้มีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบซี และเข้ารับการตรวจติดตามโรคตับแข็ง เนื้องอกถูกค้นพบในระหว่างการตรวจตามปกติ ก่อนหน้านี้ดัชนี AFP ของเธออยู่ที่เพียง 7.5ng/ml แต่จากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 859 และ 2350.ng/ml และท้ายที่สุดพุ่งไปสูงถึง 4925ng/ml ขณะนั้นแม้แต่คนเป็นหมอยังคิดกับตัวเองว่า "ผมสงสัยว่าเนื้องอกจะใหญ่ขนาดไหน?" ผลการตรวจ MRI พบว่าเนื้องอกเพิ่มขึ้นจาก 1.9 ซม. เป็น 2 ซม.
อย่างไรก็ดี สำหรับเคสหญิงวัย 83 ปีนี้ เนื่องจากผู้ป่วยมีอายุค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเป็นช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การผ่าตัดไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ทำได้เพียงการดูแลบำรุงรักษาเท่านั้น ในตอนนั้นคุณหมอเฉียนก็นึกถึงกรณีก่อนหน้านี้ที่ใช้ "ใบมันเทศ" เพื่อเอาเนื้องอกออก
กรณีดังกล่าวเป็นผู้ป่วยชายวัย 51 ปี ที่มีเนื้องอกในตับมากถึง 8 ก้อน ซึ่งก้อนที่ใหญ่ที่สุดคือ 13 ซม. และวินิจฉัยว่าเป็น "มะเร็งตับระยะสุดท้าย" เขาได้รับการผ่าตัด รับเคมีบำบัด และรักษาแบบตรงจุด กระทั่งผ่านมาประมาณเกือบ 1 ปี เมื่อมาตรวจติดตามอาการอีกครั้งแม้แต่แพทย์ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเขาเต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา และพบว่าเนื้องอกทั้งหมดอยู่ที่ตับทั้งสองข้าง "หายไป" โดยไม่มีอาการใดๆ ไม่มีการกลับเป็นซ้ำหรือการแพร่กระจาย อีกทั้งยังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อแพทย์ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ป่วยชายรายนี้ก็ตอบว่าเขากิน "ใบมันเทศ" ระหว่างการรักษา
ดังนั้น คุณหมอจึงแนะนำให้หญิงชราลองทำดู ตั้งแต่นั้นมาเธอก็เพิ่ม "ใบมันเทศ" ลงในเมนูอาหารประจำวันของตัวเอง หลังจากรับประทานยาได้ 4 เดือน หญิงชราก็กลับมาตรวจติดตามผล พบว่าดัชนี AFP ลดลงทันทีเหลือ 365ng/ml ตอนแรกคุณหมอเฉียนยังคิดว่าอาจเป็นเรื่องบังเอิญ แต่หลังจากผ่านไปอีก 3 เดือน เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่ออัลตราซาวนด์ไม่พบเนื้องอก และผล MRI ก็ยืนยันว่า "เนื้องอกของหญิงชราหายไปแล้วจริงๆ" ผลการตรวจเลือดภายหลังเพื่อตรวจหาดัชนี AFP ก็ลดลงสู่ระดับปกติที่ 5.3ng/ml เช่นกัน
"ใบมันเทศ" มีความมหัศจรรย์อะไรเช่นนี้?
นพ.เฉียน เจิ้งหง กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับ เขาจะแนะนำให้เข้ารับการรักษาอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การรับประทานใบมันเทศสามารถส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้และป้องกันอาการท้องผูกได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A, B, C, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก, สังกะสี และฟอสฟอรัส... ซึ่งสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ป้องกันได้ ภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและโรคหัวใจ
นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่าในการศึกษาทดลองล่าสุด พบว่าเปปไทด์ที่มีกรดอะมิโน 16 ชนิด สามารถแยกได้จากผักมันเทศ เรียกว่า Ipomoea batatas anticancer peptide (IbACP) จึงถูกเรียกว่า "เปปไทด์ต้านมะเร็งในมันเทศ" เชื่อกันว่าส่วนผสมนี้กระตุ้นและส่งเสริมการตายของเซลล์มะเร็งตับอ่อนผ่านการตายของเซลล์แบบไมโตคอนเดรีย และจึงมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถต่อสู้กับมะเร็งตับได้จริงหรือไม่
คุณหมอยังกล่าวอีกว่า ผักมันเทศเป็นแหล่งของสารประกอบฟีนอลิกตามธรรมชาติ และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง ปริมาณฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ทั้งหมดในใบสูงกว่าในลำต้นถึง 10 เท่า คุณค่าทางโภชนาการของส่วนใบสูงมากๆ
อย่างไรก็ตาม คุณหมอเฉียนเน้นย้ำว่ากรณีข้างต้นเป็นเพียงกรณีศึกษาที่เขารักษาเป็นการส่วนตัว และขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาขนาดใหญ่ที่ยืนยันถึงผลสำคัญของการกินใบมันเทศเพื่อรักษาโรค หรือว่าสามารถกำจัดเนื้องอกในตับได้ และที่แน่นอนคือวิธีการนี้ "ไม่สามารถทดแทน" การรักษาทั้งหมดจากพยาบาลจากแพทย์หรือโรงพยาบาลได้