ลูกสาวอวด หลับสบายที่ รร.อนุบาล แต่แม่เห็นสภาพ "ผ้าประจำตัว" ไม่กล้าวางใจ!

 ลูกสาวอวด หลับสบายที่ รร.อนุบาล แต่พอเห็นสภาพ "ผ้าประจำตัว" แม่ดีใจไม่ออก!

นับตั้งแต่เด็กเริ่มเข้าเรียนอนุบาล พ่อแม่หลายคนจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในพฤติกรรมและนิสัยของเด็ก ไม่เพียงแต่ความสามารถทางปัญญาและทักษะทางสังคมจะดีขึ้นเท่านั้น แต่พวกเขายังมีความตระหนักรู้ในตัวเองมากขึ้นจากกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น จากเด็กที่เคยกินยากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเลือกกินผัก หลังจากไปโรงเรียนมักมีทัศนคติที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป ด้วยการให้กำลังใจและคำแนะนำจากคุณครู เด็กๆ จึงเริ่มลิ้มลองอาหารที่พวกเขาเคยเกลียด ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี  อย่างไรก็ ยังมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่น่ากังวลใจ ดังนั้น ผู้ปกครองจึงต้องคอยสังเกตบุตรหลานอยู่เสมอ

ดังเช่นราวราวที่ถูกแชร์โดยคุณแม่ชาวจีน ลูกสาวของเธอปกติไม่เคยงีบหลับเลย ไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ อีกทั้งยังถูกส่งไปอนุบาลตอนอายุได้ 4 ขวบแล้ว ซึ่งนับว่าช้ากว่าปกติเล็กน้อย ตอนแรกพบว่าลูกมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนมาก เมื่อต้องเข้าสู่ชีวิตแบบกลุ่มที่มีกฎเกณฑ์มากมายอย่างกระทันหัน เพราะเคยชินกับชีวิตที่อิสระ และการถูกตามใจอยู่ที่บ้าน

ผู้เป็นแม่เล่าว่า “ลูกสาวจะเข้านอนทุกเที่ยงเหมือนกับเพื่อนร่วมชั้น เพราะเธอบอกว่าตัวเองเชื่อฟังคุณครูเป็นอย่างดี และเมื่อเห็นภาพลูกสาวกำลังงีบหลับที่คุณครูส่งมาให้ ฉันก็รู้สึกอุ่นใจและพอใจมาก”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่เธอกำลังนำเสื้อผ้าของลูกสาวไปซัก ก็ต้องประหลาดใจกับรายละเอียดแปลกๆ บนผ้าขนหนูผืนโปรดของลูกสาว ที่มักจะพกติดตัวเสมอ มุมหนึ่งของผ้ากลับขนร่วงไปมาก  จนทำให้ผ้าผืนนี้ดูไม่สวยงามและสกปรกมาก เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากจึงไม่ลังเลที่จะถามลูกสาวว่า “เกิดอะไรขึ้นกับผ้าผืนนี้?”

เมื่อเห็นแววตาสงสัยและวิตกกังวลของแม่ ในที่สุดเด็กน้อยก็ไม่คิดปิดบังอะไร ยอมบอกความจริงอย่างตรงไปตรงมา ว่าทุกวันจะต้องนอนกลางวันอย่างเชื่อฟังคำสั่งของครู แต่กลับไม่ได้นอนหลับสบายเสมอไป มีหลายวันที่นอนไม่หลับ แต่เพราะกลัวโดนดุว่ารบกวนเด็กคนอื่น จึงเล่นเงียบๆ กับตัวเองคนเดียว และเบื่อมากจนดึงขนบนผ้าเพื่อฆ่าเวลา

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เป็นแม่ก็รู้สึกทั้งขบขันและสงสารลูกสาว เพราะที่โรงเรียนมีระเบียบวินัยมากกว่าที่บ้าน ดังนั้นแม้ว่าจะไม่ต้องการ แต่ลูกน้อยของเธอก็ยังต้องเงียบและทำตามกฎ นี่เป็นนิสัยที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อพัฒนาการโดยรวมของเด็ก ดังนั้น เธอยังคงต้องการให้ลูกสาวคุ้นเคยและปรับตัวเข้ากับสิ่งนี้ได้ดี