เกาหลีเหนือประหาร 3 ผู้แปรพักตร์ สื่อนอกเผยวิธีสุดโหด ลงมือต่อหน้าชาวบ้าน-เด็กนักเรียน

เกาหลีเหนือประหาร 3 ผู้แปรพักตร์ สื่อนอกเผยวิธีสุดโหด ลงมือกลางชุมชน เด็กนักเรียนสติแตกเห็นภาพนาทีชีวิต

เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และเทคโนโลยีขีปนาวุธมาเป็นเวลานาน โดยละเลยการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน หลังจากการปฏิรูปเงินตราทำให้เกิดภาวะอดอยาก ประชาชนจำนวนมากยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อหลบหนีออกจากประเทศ ล่าสุด เกาหลีเหนือได้ประหารชีวิตผู้แปรพักตร์ 3 คนต่อหน้าชาวบ้าน โดยพวกเขาถูกมัดและถูกยิงด้วยกระสุน 90 นัด จนร่างแหลกเป็นชิ้น ๆ เด็กนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

ตามรายงานของ Daily NK ฉบับภาษาญี่ปุ่น จำนวนผู้หลบหนีไปเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงปี 2008-2011 โดยเฉลี่ยปีละ 3,000 คน แต่หลังจากที่ คิม จองอึน ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดในปี 2012 ตัวเลขดังกล่าวลดลงครึ่งหนึ่ง และเมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 เกาหลีเหนือปิดพรมแดนอย่างเข้มงวด ส่งผลให้จำนวนผู้แปรพักตร์ลดลงเหลือเพียงตัวเลขสองหลัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากการระบาดสิ้นสุดลง จำนวนผู้หลบหนีเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยในปี 2024 มีผู้แปรพักตร์ถึง 236 คน

สาเหตุที่ทำให้ประชาชนหลบหนีมากขึ้น

สื่อสหรัฐฯ Radio Free Asia (RFA) วิเคราะห์ว่า เกาหลีเหนือเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนักตั้งแต่ปี 2009 หลังจากการปฏิรูปเงินตราล้มเหลว ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อรุนแรงและการขาดแคลนอาหาร ประชาชนจำนวนมากสูญเสียทรัพย์สินและพากันหนีออกนอกประเทศ ในปีนี้ ค่าเงินเกาหลีเหนืออ่อนค่าลงอย่างหนัก เงินเฟ้อสูงขึ้น และรัฐบาลจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากตกงาน รัฐบาลจึงเลือกใช้มาตรการที่โหดร้ายเพื่อปราบปรามผู้ที่พยายามหลบหนี

การประหารชีวิตอย่างโหดเหี้ยม

แหล่งข่าวจากจังหวัดพยองอันเหนือของเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า เขาได้รับข้อมูลจากเพื่อนในจังหวัดฮวังแฮใต้เกี่ยวกับการประหารชีวิตอย่างเปิดเผยของผู้แปรพักตร์ 3 ราย ชายวัย 30 กว่าปี 3 คน ได้แก่ สองพี่น้องแซ่คิม และเพื่อนของพี่ชายแซ่ลี พวกเขาใช้เวลาหลายเดือนเตรียมการและซื้อเรือเพื่อพยายามหนีไปเกาหลีใต้ เนื่องจากหมอกหนาทึบในทะเล พวกเขาต้องใช้เข็มทิศนำทาง

เมื่อเรือของพวกเขาแล่นไปถึงคาบสมุทรคังรยอง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดฮวังแฮใต้ (ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอองจิน เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้) พวกเขาคิดว่าตัวเองรอดพ้นจากการตรวจจับแล้ว แต่กลับพบเรือประมงลำหนึ่ง พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือ หวังให้เรือนั้นพาไปเกาหลีใต้ แต่เรือลำดังกล่าวกลับเป็นเรือลาดตระเวนของเกาหลีเหนือ ทำให้พวกเขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2024

การประหารชีวิตสุดสยอง

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ รัฐบาลเกาหลีเหนือสั่งให้ประชาชนจากโรงงาน ฟาร์ม และโรงเรียนในอำเภอองจิน จังหวัดฮวังแฮใต้ มารวมตัวกันที่ทุ่งนาแปลงที่ 13 ของหมู่บ้าน เพื่อเป็นสักขีพยานในการประหารชีวิตชายทั้งสาม

พวกเขาถูกปิดปาก มัดมือ และถูกล่ามติดกับเสา ก่อนที่รัฐบาลจะดำเนินการไต่สวนอย่างเปิดเผย เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “พวกแกเป็นคนทรยศ! บนแผ่นดินของประเทศนี้ พวกแกจะไม่มีแม้แต่ที่ฝังศพ” จากนั้นก็กราดยิงพวกเขาด้วยกระสุน 90 นัด จนร่างแตกเป็นชิ้น ๆ และถูกเผาไปพร้อมกับเปลวไฟ ภาพที่โหดร้ายเกินทนทำให้เด็กนักเรียนกรีดร้องอย่างน่าสลดใจ และชาวบ้านหลายสิบคนถึงกับตกใจจนขวัญเสีย

รายงานเสริมว่า ทั้งสามคนน่าจะถูกทรมานอย่างรุนแรงก่อนถูกประหาร จนไม่สามารถยืนได้ ร่างกายถูกมัดแน่นกับเสา และแต่ละคนถูกยิงถึง 90 นัดจนแทบไม่เหลือร่างให้ฝัง