.jpg)
สะใภ้หน้าชา แม่ผัวกล่าวหา "อมทอง" ทวงคืน 5 แท่ง แต่ลูกชายไม่โง่ แถมกุมหลักฐานเด็ด!!!
สะใภ้อึ้ง แม่ผัวให้ทอง 2 แท่งวันแต่งงาน จู่ๆ ทวงคืน 5 แท่ง ลูกชายพูดสวน 1 ประโยค หน้าชา!!!
ท่ามกลางราคาทองคำที่พุ่งสูง นอกจากจะต้องระวังโจรแล้ว ยังมีคนที่ต้องเผชิญสถานการณ์แปลกๆ ที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอด้วยตัวเอง ดังเช่นหญิงสาวชาวเวียดนามที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ชวนเสียใจ เมื่อวันดีคืนดี “แม่สามี” กล่าวหาว่าฮุบทองคำแท่งของขวัญวันแต่งงาน
เธอเล่าว่า “ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าขันเช่นนี้ หลังจากที่เราแต่งงานกันได้ไม่นาน ฉันก็ถูกแม่สามีสงสัยและถูกกล่าวหาอย่างโจ่งแจ้ง เธอพูดว่าฉันแอบขายทองและใช้เงินอย่างลับๆ แต่ความจริงกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง”
ทุกอย่างเริ่มต้นจากทองคำ 2 แท่ง ที่แม่สามีมอบให้ในวันสำคัญของทั้งคู่ ต่อหน้าญาติพี่น้องทั้งสองฝ่าย ในตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเป็นสินสอดที่เธอไม่ได้เรียกร้องแพงๆ เพียงแค่รับเท่าที่อีกฝ่ายเต็มใจมอบให้ คิดว่าตราบใดที่เธอกับสามีมีความสุขดีด้วยกันก็พอแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่เดือนต่อมา ในช่วงที่ราคาทองคำเริ่มพุ่งสูงและแตะระดับสูงสุดที่ 100 ล้านดองต่อตำลึง (มากกว่า1.3 แสนบาท) แม่สามีก็บอกให้ทั้งคู่คืนทองคำที่เธอเคยให้มา ด้วยเหตุผลว่า “ครอบครัวต้องการใช้” ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นเพียงแค่การพูดเล่น หรือมีเหตุผลจำเป็นบางอย่างจริงๆ
แต่ปรากฏว่าแม่สามีไม่เพียงแต่เรียกร้องทองคืนเท่านั้น ยังยืนกรานว่าได้มอบทองมา 5 แท่ง ไม่ใช่ 2 แท่ง และสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือข้อกล่าวหาต่อลูกสะใภ้ “ภรรยาของลูกคงขายมันไปแล้ว ไม่มีใครมาขโมยที่นี่หรอก แต่เธออาจจะใช้มันไปอย่างลับๆ ฉันให้ทองเธอไป 5 แท่ง ทำไมเหลือแค่ 2 แท่งล่ะ”
คำกล่าวนี้ทำให้เธอตกตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าแม่สามีจะพูดแบบนี้ ความจริงเธอไม่เคยแตะทองนั้นเลย และไม่มีความตั้งใจที่จะทำแอบอะไรที่น่าสงสัยด้วย แต่ตอนนี้กลับถูกสงสัยโดยไม่พิจารณาอะไรเลย และโยนความผิดโดยไม่ยุติธรรม เธอเธอไม่รู้ว่าจะโกรธหรือเสียใจดี แค่รู้สึกถูกกระทำผิด…
แต่ในขณะที่เธอยังคงสับสนและไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร สามีที่ดูเหมือนจะไม่ได้หวั่นไหวกับสิ่งที่แม่พูด ก็ตอบอย่างหนักแน่นว่า “ผมเป็นคนรับทองมาจากแม่ ไม่ใช่ภรรยาของผม และผมยังมีวิดีโอการมอบทองในงานแต่งงานอยู่ที่นี่ด้วย”
คำพูดที่มีหลักฐานยืนยันของสามีทำให้เธอสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งใจอย่างแท้จริง แม้วิดีโอการแลกเปลี่ยนทองในวันวิวาห์นั้น แทนที่จะเป็นสิ่งที่ระลึกถึงช่วงเวลาดีๆ มันกลับถูกใช้เป็นหลักฐานของอาชญากรรมที่แม่สามีพยายามกล่าวหาลูกสะใภ้อย่างไม่ยุติธรรมก็ตาม
เมื่อสถานการณ์พลิกผันเช่นนี้ แม่สามีจึงเงียบไป อีกสักครู่ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทน าและไม่พูดถึงเรื่องทองแต่งงานอีกต่อไป ในขณะที่เธอมองดูสามีแล้วรู้สึกขอบคุณจากใจ หากเขาไม่ยืนหยัดเพื่อภรรยา เธอคงจะต้องประสบกับความอยุติธรรมที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
หลังจากเหตุการณ์นี้เธอจึงได้ตระหนักถึงสิ่งต่างๆ มากมาย ประการแรกเมื่อได้รับทรัพย์สินมีค่าเช่นทองแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นจากใครก็ตาม จำเป็นต้องให้ชัดเจนและควรบันทึกหลักฐานไว้ด้วย ไม่ใช่ทุกคนจะมีเจตนาไม่ดี แต่หากเกิดความเข้าใจผิดกันอย่างน้อยฉันก็ยังมีทางแก้ได้
ประการที่สองในชีวิตแต่งงาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความไว้วางใจระหว่างสามีและภรรยา “ฉันโชคดีมากที่สามีไม่สงสัยฉัน ไม่ว่าแม่ของเขาจะพูดอย่างไรก็ตาม หากคุณเชื่อแม่ของคุณ และโทษฉัน บางทีการแต่งงานของฉันอาจไม่ดีเหมือนก่อน”
ท้ายที่สุดเธอบอกว่า การที่ออกมาเล่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพื่อที่จะตำหนิหรือเคืองแค้น แต่เพียงเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังจะแต่งงาน และทุกๆ คน ให้ระมัดระวังทรัพย์สินที่มีค่าให้มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือให้เลือกสามีที่รู้จักปกป้องภรรยาของเขา