.jpg)
สาววัย 38 เสียชีวิต ผลชันสูตรเผยความจริง ไม่ได้ป่วยมะเร็ง แต่คือแผนร้ายของคนใกล้ตัว
หญิงสาววัย 38 เสียชีวิต ผลชันสูตรเผยความจริงสุดพีก ไม่เคยป่วยมะเร็ง เปิดโปงคดีฉ้อโกงประกัน 50 ล้าน แผนร้ายของคนใกล้ตัว
สื่อดังอย่าง NBC รายงานว่า เกิดคดีสะเทือนขวัญในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา โดยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมปีที่แล้ว เคซี ลิน เทอร์รี วัย 38 ปี ถูกพบหมดสติในบ้าน หายใจหอบหนัก และมีระดับน้ำตาลในเลือดเหลือเพียง 14 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 40 ที่อาจถึงแก่ชีวิต แม้แพทย์จะพยายามยื้อชีวิตตลอด 3 วัน แต่สุดท้ายเธอก็จากไป
ครอบครัวเผยกับโรงพยาบาลว่า เคซี่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมานาน 4-5 ปี แต่ไม่เคยเป็นเบาหวาน ทว่าทีมแพทย์กลับพบเข็มฉีดยาสำหรับผู้ป่วยเบาหวานในบ้านของเธอ
สิ่งที่ชวนช็อกไปกว่านั้น ผลชันสูตรเผยว่าเคซี่ไม่เคยเป็นมะเร็ง หรือมีปัญหาสุขภาพใด ๆ เลย แพทย์ยืนยันว่าเธอเสียชีวิตจากการได้รับอินซูลินเกินขนาด ยาโปรเมทาซีนซึ่งเป็นยาระงับประสาท และยาอื่นๆ
จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่พบว่า เมแกน ซันด์วอลล์ วัย 47 พยาบาลและเพื่อนสนิทของเคซี่ เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก ในวันเกิดเหตุ เธออยู่กับเคซี่ตลอดช่วงเช้า และอ้างว่าเคซี่ได้ลงนามปฏิเสธการรักษาฉุกเฉิน ไม่ต้องการไปโรงพยาบาล
ตำรวจพบว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 เคซี่และเมแกนส่งข้อความหากันกว่า 28,000 ครั้ง เนื้อหาชวนสะเทือนใจ เมแกนโน้มน้าวให้เคซี่ที่คิดว่าตัวเองป่วยระยะสุดท้ายปลิดชีพตัวเอง และยังเสนอจะช่วยเหลือ นอกจากนี้ เมแกนยังเผยว่ากำลังมีปัญหาการเงิน และหากได้เป็นผู้รับผลประโยชน์จากประกันของเคซี่ ทุกอย่างจะคลี่คลาย
แม้สถานะกรมธรรม์ของเคซี่ยังไม่ชัดเจน แต่เมแกนเชื่อว่าเธอสามารถรับเงินประกันชีวิต 1.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 50 ล้านบาท) จากการตายของเพื่อน หลังเกิดเหตุ เมแกนลบข้อความกว่า 900 ฉบับจากโทรศัพท์ของเคซี่ และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ของเคซี่
ขณะนี้ เมแกนถูกตั้งข้อหาว่าวางแผนหลอกลวงนานกว่า 5 ปี ทำให้เคซี่เข้าใจผิดว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และต้องรับประทานยาในปริมาณมากเป็นเวลานาน รวมถึงยาอินซูลินในปริมาณที่สูงจนอาจถึงแก่ชีวิตได้
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา เมแกนถูกจับกุมและถูกคุมขังในเรือนจำประจำเขต เธอต้องเผชิญข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม