ด.ญ.5 ขวบ ทำตัวแปลกๆ ตอนนอนกลางวัน เห็นสิ่งที่ตกจากกระเป๋า ครูรีบโทรแจ้งผปค.

เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ทำตัวแปลกๆ ทุกครั้งที่ถึงเวลานอนกลางวัน หลังความจริงถูกเปิดเผย ทำทั้งพ่อเลี้ยงและครูน้ำตาคลอ

เรื่องราวนี้ถูกคุณครูในประเทศจีนโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย Weibo โดยมีหัวข้อว่า “เด็กหญิงที่ไม่ได้นอนกลางวัน…” ซึ่งดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ตที่อยากรู้เรื่องราวมากขึ้น โดยคุณครูมี้อัน เล่าว่า เธอสอนชั้นอนุบาล 5 ขวบที่มีนักเรียน 15 คน ส่วนใหญ่ในชั้นนี้เริ่มฝึกเขียนและเป็นเด็กดี แต่ในฐานะครู มี้อันไม่เคยละเลยที่จะสังเกตและดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด

"2 วันที่ผ่านมา นักเรียนชื่อเหว่ยหลาน ทุกครั้งที่ถึงเวลาเที่ยง จะมุดผ้าห่มแน่นและขยับตัวไม่หยุด เมื่อฉันเตือน เธอก็จะเงียบสักครู่แล้วกลับมาทำเหมือนเดิม โดยอ้างว่า รู้สึกหนาว หรือขาเคลื่อนไหวไม่สะดวก... วันหนึ่งเธอยังขอเข้าไปในห้องน้ำถึง 30 นาที เมื่อถามไป เธอบอกว่าไม่มีอะไร

แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เกิดขึ้น 1-2 วัน แต่มันเกิดขึ้นติดต่อกันมาหลายวันแล้ว วันอังคาร ฉันจึงเฝ้าดูเวลาที่เธอนอนกลางวัน และเห็นว่าเธอเอาผ้าห่มคลุมตัวแล้วทำอะไรบางอย่างในผ้าห่ม ฉันเข้าไปใกล้ๆ แล้วเปิดผ้าห่มออก ปรากฏว่าเห็นเธอรีบเอาของบางอย่างใส่ลงในกระเป๋ากางเกง สิ่งที่ตกจากกระเป๋าคือ... นกกระเรียนกระดาษ" คุณครูเฉินเล่าด้วยความตกใจ

"ฉันรู้สึกประหลาดใจมาก ถามเหว่ยหลานว่าทำไมต้องพับสิ่งเหล่านี้และทำไมต้องซ่อนมันไว้? ยิ่งไปกว่านั้น เธอเป็นเด็กที่ดีมาตลอด ไม่เคยทำให้ฉันยุ่งยากเลย เธอเข้าใจเหตุผลดีมาก พอได้ยินว่าแม่ของเธอไปทำงานต่างประเทศตั้งแต่เธอ 3 ขวบ และเพิ่งกลับมาได้ 2 เดือน ส่วนพ่อเลี้ยงก็เป็นคนดูแลเธออย่างดี แม้ทำงานเกษตรหนักและมือเปื้อนดิน แต่ลูกสาวของเขามาที่โรงเรียนเสมอในสภาพสะอาดและเรียบร้อยที่สุด" คุณครูบอกด้วยความสงสัย

หลังจากนั้นคุณครูจึงตัดสินใจโทรหาผู้ปกครอง ซึ่งก็คือพ่อเลี้ยงชื่อข่าซง ให้รีบมาที่โรงเรียนด้วยเหตุผลว่า “ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ของนักเรียน” และยังเรียกเหว่ยหลานขึ้นมาด้วย เพื่อให้ครอบครัวเข้าใจและร่วมมือกับโรงเรียนในการหาทางออกที่ดีที่สุด แต่ที่นี่เองที่ความจริงได้ถูกเปิดเผย ทำให้ทั้งคุณครูและพ่อเลี้ยงน้ำตาคลอ

เหว่ยหลาน เล่าว่า เธอได้ดูการ์ตูนและอ่านเรื่องราวที่บอกว่า หากพับนกกระเรียนกระดาษ 1,000 ตัวและตั้งความปรารถนา จะทำให้ความฝันเป็นจริง เธอจึงได้ขอพรว่า "ขอให้พี่ชายหายจากโรค พ่อแม่ของหนูร้องไห้เยอะมาก หนูไม่ได้เจอพี่ชายมาหลายสัปดาห์แล้ว ได้ยินว่าเขาอยู่ในโรงพยาบาล หนูขอให้พี่ชายหายแล้วกลับมาพาหนูไปสวนสนุกเล่น" คุณครูยังจำคำพูดของเด็กหญิงวัย 5 ขวบได้

เนื่องจากกลัวว่าคุณครูจะห้ามทำสิ่งที่ตัวเองชอบโดยเฉพาะในช่วงเวลานอนกลางวัน เหว่ยหลานจึงทำในลักษณะลับๆ และที่บ้านก็ไม่กล้าทำ กลัวแม่จะเห็นแล้วรู้สึกเสียใจ

"ฉันไม่คิดว่าเหว่ยหลานจะเป็นเด็กแค่ 5 ขวบเลย เธอเข้าใจดีจนทำให้หัวใจฉันเจ็บปวด น้ำตาฉันไหลโดยที่ไม่รู้ตัว" คุณครูมี้อันกล่าวถึงความรู้สึกของตน

พ่อเลี้ยงข่าซงก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ เขาลูบหัวลูกสาวและเล่าเพิ่มเติมว่า ลูกชายคนโตของเขา ซึ่งเกิดจากภรรยาคนเก่าที่เสียชีวิต ถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ภรรยาของเขา แม่แท้ๆ ของเหว่ยหลาน ต้องกลับมาจากการทำงานต่างประเทศอย่างเร่งด่วน ตอนนี้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับความกดดันเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด และความเจ็บปวดที่เห็นลูกชายทุกข์ทรมานจากโรคร้าย

“เราทั้งสองคนมันห่วงแต่เรื่องการรักษาลูกชาย จนลืมไปว่าเหว่ยหลานก็ต้องการความใส่ใจ เธอคงรู้สึกโดดเดี่ยวมาก มาหลายวันแล้วที่เหว่ยหลานถามถึงพี่ชายของเธอ พวกเรายังเคยนั่งคุยกันว่า ถ้าหากมีความปรารถนาอะไรได้ซักข้อ เราจะขอให้ลูกชายหายจากโรคหรือขอให้พระเจ้าประทานปาฏิหาริย์ให้เราได้ไหม เธอคงได้ยิน" ข่าซงกล่าวเสริม

เขายังได้ส่งคำขอบคุณถึงคุณครูที่ได้ให้ความสนใจและดูแลเหว่ยหลานอย่างใกล้ชิด

ข่าซงมีภรรยาคนแรกและมีลูกชายวัย 8 ขวบก่อนที่จะแต่งงานใหม่ แม่ของเหว่ยหลานชื่อเหว่ยตง เคยผ่านการแต่งงานในวัยเกือบ 30 แต่เพียงปีเดียวก็ต้องหย่าร้าง เนื่องจากสามีมีชู้และขายทรัพย์สินทั้งหมดไปใช้ชีวิตกับชู้ในเมืองอื่น

เธอจึงต้องกลับบ้านเกิดและทำงานเพียงลำพัง โดยบังเอิญได้พบกับข่าซง ทั้งสองเคยเป็นเพื่อนเรียนร่วมกัน จึงมีความเข้าใจในสถานการณ์ของกันและกัน จนตัดสินใจแต่งงานกัน เมื่อเหว่ยหลานอายุได้ 3 ปี เหว่ยตงตัดสินใจไปทำงานในที่ไกลๆ เพราะที่บ้านเกิดไม่มีงานมากนัก ข่าซงจึงต้องทำงานเกษตรและดูแลลูกทั้งสองไปพร้อมกัน เขามีชื่อเสียงว่าเป็นคนใจดีและสุภาพ

โพสต์นี้หลังจากแชร์ไปในโซเชียลมีเดียได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก โดยมีหลายคนแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจไปยังครอบครัวของเหว่ยหลาน พร้อมทั้งชมเชยเด็กหญิงว่าเป็นเด็กที่เข้าใจง่าย น่ารัก และเชื่อฟัง ส่วนพ่อเลี้ยงก็ได้รับคำชมจากชาวเน็ตเช่นกัน

“พ่อเลี้ยงใส่ใจลูกสาวมาก 4 ชีวิตที่ดูเหมือนจะขาดแคลนมารวมกันเป็นครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่น ทุกคนรักและห่วงใยกัน เด็กๆ ที่เติบโตในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักเชื่อว่าจะมีจิตใจที่ดีงามเหมือนเหว่ยหลาน ขอให้ลูกชายคนโตของครอบครัวชนะโรคร้าย” ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็น