
รู้หรือไม่? ผู้ผลิต "ตู้เย็น" คิดมาแล้ว แต่ละช่องใช้แช่ของต่างกัน แช่ให้ถูก ชีวิตจะดีขึ้นทันที
รู้หรือไม่? ตู้เย็นแต่ละช่อง “ไม่ได้แช่ได้ทุกอย่าง” ผู้ผลิตเขาออกแบบมาแล้ว เพื่อแยกแช่ของให้ถูกจุด!
ตู้เย็นของคุณไม่ได้มีไว้แค่ยัดของเข้าไปแบบตามใจฉัน เพราะความจริงแล้ว แต่ละช่องในตู้เย็นถูกออกแบบมาอย่างมีระบบ เพื่อรองรับของแต่ละประเภทโดยเฉพาะ! ทั้งเรื่องของอุณหภูมิ ความชื้น และความถี่ในการเปิดปิด ล้วนส่งผลต่อคุณภาพอาหารโดยตรง
ถ้าแยกแช่ให้ถูกต้อง อาหารจะอยู่ได้นานขึ้น กลิ่นไม่ปะปน เชื้อโรคลดลง และยังช่วยประหยัดไฟได้ด้วย
แต่ถ้าแช่มั่ว วางผิดที่ผิดทาง บอกเลยว่า...คุณอาจทำลายอาหารทั้งตู้แบบไม่รู้ตัว
เปรียบเทียบชัดๆ : ช่องไหนควรแช่อะไร – ไม่ควรแช่อะไร?
ช่องในตู้เย็น |
ควรแช่อะไร |
ไม่ควรแช่อะไร |
เหตุผล |
---|---|---|---|
ช่องแช่แข็ง (Freezer) |
เนื้อสัตว์ดิบ, อาหารทะเล, อาหารแช่แข็ง, น้ำแข็ง |
ผักสด, ผลไม้สด, ไข่ |
ความเย็นจัดทำให้ผักเละ รสชาติเปลี่ยน หรือเกิด freezer burn |
ช่องกลาง (Cooling Zone / Chiller) |
อาหารพร้อมทาน, ผลิตภัณฑ์นม, โยเกิร์ต, เนื้อสัตว์ที่จะใช้ใน 1-2 วัน |
ผักสด, ผลไม้ |
อุณหภูมิเย็นเกินไปสำหรับผัก ทำให้เน่าเร็ว |
ลิ้นชักผัก (Vegetable Crisper) |
ผักใบเขียว, ผักสด, ผลไม้ |
เนื้อสัตว์, อาหารเปียก, ของที่มีกลิ่นแรง |
ความชื้นสูง เหมาะกับผัก แต่ถ้าใส่เนื้อจะสะสมแบคทีเรียได้ |
ช่องประตู (Door Compartment) |
น้ำดื่ม, เครื่องปรุง, ซอส, ไข่ (บางรุ่น) |
นมสด, อาหารเน่าเสียง่าย |
เปิดปิดบ่อย ทำให้อุณหภูมิตรงนี้ไม่นิ่ง |
ข้อดีของการแยกแช่ให้ถูกช่อง
-
อาหารสดนานขึ้น 2-3 เท่า
-
กลิ่นไม่ปะปนในตู้เย็น
-
ลดความเสี่ยงจากแบคทีเรียข้ามชนิด
-
ประหยัดไฟ เพราะระบบไม่ต้องทำงานหนักเกิน
ข้อเสียของการแช่มั่วแบบตามสะดวก
-
อาหารบางอย่างบูดเร็วโดยไม่รู้ตัว
-
กลิ่นเหม็นรวมทั้งตู้
-
เสี่ยงปนเปื้อนข้ามกลุ่ม (เช่น ผักโดนเลือดจากเนื้อสัตว์)
-
เปลืองไฟ เพราะเครื่องต้องพยายามรักษาอุณหภูมิที่ไม่สมดุล
สรุป:
การใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี = ยืดอายุอาหาร + ประหยัดไฟ + สุขภาพดีขึ้น
แค่เริ่มจาก "แยกแช่ให้ถูกช่อง" ชีวิตในครัวของคุณจะเปลี่ยนไปแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน!