(1).jpg)
กูรูเตือน 3 อุปกรณ์ใช้กินอาหาร หลายคนกำลัง "เติมโรคร้าย" เข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
คำเตือนระดับแดง: อุปกรณ์รับประทานอาหาร 3 ชนิด ใกล้ตัว ที่อาจก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด ไตเสื่อม และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองโดยไม่รู้ตัว
หลายคนกำลัง “เติมโรคร้าย” เข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว จากการใช้อุปกรณ์รับประทานอาหารบางชนิดเป็นประจำทุกวัน
ศาสตราจารย์ติง เสวี่ยเจีย แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเคมีปักกิ่ง (ประเทศจีน) เตือนว่า อุปกรณ์รับประทานอาหารที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แท้จริงแล้วอาจแฝงภัยเงียบต่อสุขภาพจากสารเคมีที่เรียกว่า สารพาทาเลต (phthalates) โดยเฉพาะชนิดที่ชื่อว่า DEHP ซึ่งพบได้บ่อยในอุปกรณ์รับประทานอาหาร
3 อุปกรณ์รับประทานอาหารใกล้ตัวที่อาจปนเปื้อนสารพาทาเลต
ศาสตราจารย์ติง อธิบายว่า อุปกรณ์เหล่านี้มักถูกเติมสารพาทาเลต เช่น DEHP, DIBP, DBP, BBP เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของวัสดุ แต่เมื่อสัมผัสกับความร้อน น้ำมัน หรือกรด สารเคมีเหล่านี้อาจหลุดออกมาสู่สิ่งแวดล้อม ซึมเข้าสู่อาหาร และเข้าสู่ร่างกาย ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง
หนึ่งในอุปกรณ์ที่ถูกจัดอยู่ใน “บัญชีแดง” ได้แก่:
แก้วน้ำ ช้อนส้อม ตะเกียบพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง
1. แก้วพลาสติก ช้อนส้อม และตะเกียบราคาถูกแบบใช้ครั้งเดียว
อุปกรณ์เหล่านี้มักมีสาร DEHP เจือปน โดยเฉพาะเมื่อใช้บรรจุอาหารหรือเครื่องดื่มร้อน สารเคมีจะสลายตัวและละลายเข้าสู่เครื่องดื่มได้ง่าย การใช้ซ้ำหรือใช้เป็นประจำอาจทำให้ร่างกายสะสมสารพิษโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพในระยะยาว
2. แก้วกระดาษเคลือบ PE หรือพลาสติกกันซึม
แก้วกระดาษแบบใช้ครั้งเดียวมักเคลือบด้วยพลาสติก PE หรือสารกันซึม เพื่อป้องกันการรั่วซึมเมื่อใส่ของเหลว อย่างไรก็ตาม เมื่อใส่น้ำร้อน ชา กาแฟ หรือซุป ความร้อนจะทำให้สารเคลือบเหล่านี้ปล่อย DEHP ออกมาสู่เครื่องดื่ม เสี่ยงต่อการรับสารเคมีอันตรายเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
3. กล่องพลาสติกใส่อาหาร
หลายคนมักใช้กล่องพลาสติกอุ่นอาหารในไมโครเวฟ หรือใส่กับข้าวและอาหารร้อน แต่พลาสติกบางชนิดไม่ได้ออกแบบมาให้ทนความร้อน เมื่อโดนความร้อนสูง อาจปล่อยสาร phthalates, DEHP และสารพิษอื่น ๆ ออกมา ยิ่งใช้กล่องเก่าหรือมีรอยขีดข่วน ความเสี่ยงในการปนเปื้อนก็ยิ่งสูงขึ้น
สารเคมี DEHP ในอุปกรณ์รับประทานอาหาร อันตรายแค่ไหน?
ศาสตราจารย์ติง เสวี่ยเจีย เตือนว่า สารพาทาเลตอย่าง DEHP เป็นภัยเงียบที่สะสมในร่างกายทีละน้อยโดยไม่แสดงอาการในระยะต้น แต่เมื่อสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงในระยะยาว
ผลการศึกษาในระดับโลกโดย NYU Langone Health สหรัฐฯ พบว่า ในปี 2018 เพียงปีเดียว มีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจที่เชื่อมโยงกับการสัมผัส DEHP มากถึง 365,000 ราย
เมื่อ DEHP สะสมในร่างกายจะทำให้หลอดเลือดเสียหาย เพิ่มการอักเสบในร่างกาย ส่งผลต่อระบบไขมันในเลือด เพิ่มความเสี่ยงของ ความดันโลหิตสูง, หลอดเลือดสมองตีบ, และถึงขั้น หัวใจวาย
นอกจากนี้ ผลการศึกษาอีกชิ้นจากวารสาร JAMA Network Open (2020) ซึ่งติดตามผู้ใหญ่กว่า 3,800 คนในสหรัฐฯ พบว่า ผู้ที่มีระดับ DEHP สูงในปัสสาวะ มีความเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้นถึง 49% โดยเฉพาะจากโรคหัวใจและหลอดเลือด
ศาสตราจารย์ติง ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า DEHP ส่งผลต่อร่างกายหลายด้าน เช่น:
- การอักเสบของหลอดเลือด: DEHP กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังเสื่อมสภาพ เปราะบาง เกิดคราบไขมันเกาะจนตีบตัน และเสี่ยงต่อความดันสูง
- การทำงานของหัวใจ: DEHP รบกวนสมดุลไขมันในเลือด ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เสี่ยง หัวใจล้มเหลวเรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว
- ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง: DEHP ยังส่งผลต่อระบบการแข็งตัวของเลือด ทำให้หลอดเลือดในสมองเสียหาย เพิ่มโอกาสเกิด ลิ่มเลือด และ อัมพาตจากโรคหลอดเลือดสมอง
DEHP อาจทำลายหน่วยไต (nephron) ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกรองของเสียลดลง ระดับ ครีอะตินิน และ ยูเรียในเลือด สูงขึ้น และเสี่ยงพัฒนาเป็น ไตวายเรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้ที่มีพฤติกรรมใช้กล่องพลาสติกใส่อาหารร้อน หรือใช้แก้วพลาสติกซ้ำ
เพื่อลดความเสี่ยงจากการรับสารพาทาเลต (phthalate) ศาสตราจารย์ติง แนะนำว่า:
- หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก โดยเฉพาะกับของร้อน
- ควรเลือกใช้ แก้วทนความร้อน หรือ ภาชนะสแตนเลส แทน
- หมั่นทำความสะอาดฝุ่นในบ้าน เนื่องจากฝุ่นมีสาร phthalate สะสมสูง
- รับประทานผักผลไม้สีเข้มที่มี แอนโทไซยานิน สูง เพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระ
หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ที่มีภาวะสุขภาพเปราะบาง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสพลาสติก และเลือกใช้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อปกป้องสุขภาพในระยะยาว