.jpg)
สวนทางความเชื่อเดิม! วิจัยระดับโลกอวย 1 อาหาร “แค่กิน” ก็ลดเสี่ยงตายก่อนวัยได้ 30%
งานวิจัย 10 ปีจาก 21 ประเทศให้คำตอบ ยืนยัน “ผลิตภัณฑ์นมไขมันเต็มส่วน” ลดความเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยถึง 30% สวนทางความเชื่อเดิม
ผลการศึกษาครั้งใหญ่ที่ใช้เวลานานกว่า 10 ปี และครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างเกือบ 150,000 คน จาก 21 ประเทศทั่วโลก พบว่าการรับประทาน “ผลิตภัณฑ์นมไขมันธรรมชาติ” หรือนมสดครบส่วน (Whole milk) เช่น ชีส นมสด ครีม และโยเกิร์ต ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้มากถึง 30% โดยขัดแย้งกับความเชื่อทั่วไปที่มองว่าอาหารไขมันสูงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
งานวิจัยระดับโลก ชี้โภชนาการที่แท้จริงอาจสวนทางแนวทางเดิม
งานวิจัยดังกล่าวนำโดย ดร.แอนดรูว์ เมนเต จากมหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา โดยใช้ข้อมูลจากโครงการวิจัย PURE ซึ่งศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหาร และผลกระทบต่อสุขภาพในประชากรหลากหลายเศรษฐกิจ ทั้งรายได้สูงกลาง และต่ำ
ผลสรุปจากการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีคะแนนการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพสูงสุด (5 คะแนนขึ้นไปจากเต็ม 6 คะแนน) มีโอกาสเสียชีวิตน้อยลง 30% และลดความเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง 19%, โรคหัวใจและหลอดเลือด 18% และหัวใจวาย14%
อาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ ได้แก่ นมสดครบส่วน, ถั่ว, ปลา, พืชตระกูลถั่ว, เนื้อแดงไม่ผ่านกระบวนการ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะและธัญพืชไม่ขัดสี
“อาหารไขมันสูง” ไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป แม้อาหารอย่างชีสหรือครีมจะมีไขมันสูงถึง 20-40 กรัมต่อ 100 กรัม (เกินกว่าค่าที่จัดว่าไขมันสูงที่ 17.5 กรัม) แต่ผลการศึกษากลับพบว่าการบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ แต่ยังช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง และภาวะเมตาบอลิกซินโดรม
“PURE Diet” สูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่แท้จริง ซึ่งได้รับการแนะนำจากงานวิจัย ได้แก่
ดร.เมนเต ให้ความเห็นว่า นโยบายด้านโภชนาการในปัจจุบันมักเน้นลดไขมันและไขมันอิ่มตัวมากเกินไป พร้อมเรียกร้องให้หันมาเน้น “อาหารที่ให้การปกป้องสุขภาพ” มากกว่าการจำกัดปริมาณอาหารบางกลุ่ม
เสียงสะท้อนจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
ศจ.ซาลิม ยูซุฟ ผู้ร่วมวิจัยอาวุโส ชี้ว่า ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่มาจาก “ภาวะขาดสารอาหาร” มากกว่าการกินเกินโดยเฉพาะในประเทศที่มีรายได้น้อย ซึ่งมักบริโภคคาร์โบไฮเดรตขัดขาวในปริมาณสูงแต่ขาดอาหารป้องกันโรค
ด้าน ดร.ดาริอุช โมซาฟาเรียน นักโภชนาการจากมหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการปรับนโยบายระดับประเทศ ทั้งในแง่แนวทางโภชนาการ ป้ายข้อมูลอาหาร และมาตรการภาษี ให้ทันกับข้อมูลวิทยาศาสตร์ล่าสุด โดยกล่าวว่า “ชีวิตของผู้คนนับล้านขึ้นอยู่กับสิ่งนี้”
ดังนั้น ถึงเวลา “คิดใหม่เรื่องโภชนาการ” แล้วหรือไม่ เมื่องานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร European Heart Journal และเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ ท้าทายแนวทางโภชนาการแบบเดิม อย่างชัดเจน ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเห็นพ้องว่า ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมอาหารจะต้องปรับแนวทางใหม่โดยเน้นอาหารที่ให้ประโยชน์แท้จริง มากกว่าการหลีกเลี่ยงไขมันแบบเหมารวม
- กูรูสหรัฐฯ พูดชัด 1 อาหารที่ "ไม่มีวันกิน!!!" เพราะแบคทีเรียเยอะมาก แต่คนไทยยังกินอยู่
- แห่แชร์ หมอญี่ปุ่นเผย "มื้อเช้า" แค่กินผัก 2 อย่างนี้ น้ำหนักไม่ขึ้น 20 ปี ที่ไทยหาซื้อง่าย!