เนื้อหาในหมวด ข่าว

ศจ.ชื่อดัง ชี้สังเกต \

ศจ.ชื่อดัง ชี้สังเกต "EQ ของเด็ก" ได้จาก 3 พฤติกรรมบนโต๊ะอาหาร พ่อแม่ต้องรีบแก้ไขด่วน!

นักจิตวิทยาอาชญาวิทยา เผยให้สังเกต “เด็กที่มี EQ ต่ำ” มักทำ 3 พฤติกรรมนี้บนโต๊ะอาหาร พ่อแม่ควรรีบแก้ไขด่วน!

ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) มีบทบาทสำคัญถึง 80% ต่อความสำเร็จในชีวิต มากกว่า IQ ที่มีสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น นั่นหมายความว่า EQ เป็นปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางอนาคตของเด็ก และสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น ขณะรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัว

ศาสตราจารย์หลี่ เหมยจิ่น (李玫瑾) ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาอาชญากรรมชื่อดังจากประเทศจีน ได้เปิดเผยว่า เด็กที่มี EQ ต่ำ มักแสดงออกผ่าน 3 พฤติกรรมสำคัญบนโต๊ะอาหาร ซึ่งหากผู้ปกครองสังเกตเห็น ควรรีบปรับพฤติกรรมทันทีเพื่อไม่ให้ส่งผลต่อพัฒนาการในอนาคต

  • รับประทานอาหารไม่เป็นระเบียบ ทำเสียงดังรบกวน : เด็กบางคนชอบลุกเดินเล่น พูดคุยเสียงดัง หรือเล่นของบนโต๊ะขณะกินข้าว พฤติกรรมนี้อาจดูไร้เดียงสาสำหรับเด็กเล็ก แต่หากยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังอายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นวัยที่เด็กสามารถเริ่มรับประทานอาหารด้วยตนเองได้แล้ว ก็อาจบ่งชี้ว่าเด็กมีความสามารถในการควบคุมตนเองต่ำ และไม่ตระหนักถึงมารยาทในการเข้าสังคม ซึ่งเป็นพื้นฐานของ EQ
  • แย่งของกิน ไม่แบ่งปัน : เด็กที่มักเลือกกินเฉพาะอาหารที่ตนเองชอบ และไม่ยอมแบ่งให้ผู้อื่น แม้แต่พ่อแม่หรือพี่น้อง ถือเป็นพฤติกรรมที่สะท้อนถึงความเห็นแก่ตัว และขาดทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น หากพฤติกรรมนี้ไม่ได้รับการแก้ไข เด็กอาจเติบโตขึ้นเป็นคนที่ไม่ยอมแบ่งปัน ไม่รู้จักการทำงานเป็นทีม และเผชิญปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นในอนาคต
  • ต้องมีคนป้อนจึงจะยอมกิน : แม้จะอายุมากแล้ว แต่บางเด็กยังคงต้องพึ่งพาการป้อนข้าวจากพ่อแม่ การที่ผู้ปกครองยอมทำเช่นนี้เพราะต้องการประหยัดเวลา กลับกลายเป็นการส่งเสริมให้เด็กพึ่งพิงผู้อื่น และไม่เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเอง ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการพึ่งพาตนเองในอนาคต

    • พ่อแม่ควรทำอย่างไร? ศาสตราจารย์หลี่ ระบุว่า ช่วงอายุ 3-6 ปี คือ “ช่วงเวลาทอง” ในการพัฒนาบุคลิกภาพของเด็ก การสอนให้เด็กเข้าใจและแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมตั้งแต่ยังเล็ก ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการมี EQ สูง

    "เด็กที่ได้รับการปลูกฝัง EQ ที่ดีตั้งแต่วัยอนุบาล จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักเข้าใจผู้อื่น ทำงานร่วมกับคนรอบข้างได้ และมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตสูงกว่าคนที่มี IQ อย่างเดียว"  ศาสตราจารย์หลี่ กล่าว

    ดังนั้น อย่ามองข้ามพฤติกรรมเล็กๆ บนโต๊ะอาหาร เพราะนั่นอาจเป็น “สัญญาณเตือน” ที่สะท้อนถึงอนาคตของลูกน้อย พ่อแม่ควรสังเกต พูดคุย และปรับพฤติกรรมอย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งทางปัญญาและอารมณ์

    เรื่องที่เกี่ยวข้อง

    ครูภาษาอังกฤษชี้ แม้บังคับเรียนตั้งแต่ ป.1 ก็อาจ \

    ครูภาษาอังกฤษชี้ แม้บังคับเรียนตั้งแต่ ป.1 ก็อาจ "ย่ำอยู่กับที่" หากไม่เปลี่ยน 1 สิ่งที่สำคัญสุด!

    อาจารย์ภาษาอังกฤษชี้: แม้บังคับเรียนตั้งแต่ ป.1 ก็พังได้ หากไม่ยอมเปลี่ยน 'สิ่งเดียว' ที่ระบบการศึกษาพลาด!
    ถูกพวกค้ามนุษย์ลากตัวไป เด็กน้อยตกใจกลัว \

    ถูกพวกค้ามนุษย์ลากตัวไป เด็กน้อยตกใจกลัว "ตะโกน 2 คำ" หนีได้อย่างปาฏิหาริย์!

    คำสอนของแม่ช่วยชีวิตไว้! ถูกพวกค้ามนุษย์ลากตัวไป เด็กน้อยตกใจกลัวจึง "ตะโกน 2 คำ" หนีออกมาได้อย่างปาฏิหาริย์