ผักที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาโรคตับเน่า” อันตรายยิ่งกว่าดื่มแอลกอฮอล์ แต่คนไทยชอบกินมาก

10/05/2025 (09:07 น.)

ผักที่ถูกขนานนามว่า “ราชาแห่งการทำลายตับ” อันตรายยิ่งกว่าการดื่มแอลกอฮอล์เสียอีก แต่คนไทยชอบกินมาก เพราะหาง่ายและราคาถูก

"ถั่วงอก" ที่มีลักษณะขาวสะอาด อวบแน่น ดูน่ารับประทาน มักเป็นตัวเลือกยอดนิยมของผู้บริโภคหลายคน เพราะราคาถูกและปรุงง่าย แต่ในความเป็นจริง ถั่วงอกชนิดนี้กลับไม่ดีต่อสุขภาพ หากรับประทานบ่อยหรือในปริมาณมาก อาจเป็นอันตรายต่อตับและอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายได้

ถั่วงอกมักผลิตโดยการแช่น้ำและใช้สารเคมีเร่งการเจริญเติบโต ซึ่งช่วยให้ถั่วงอกเจริญเติบโตเร็วและสร้างผลกำไรสูงให้กับเกษตรกร แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ถั่วงอกดูดซึมสารพิษต่าง ๆ การใช้สารเคมีเหล่านี้อาจทำให้เซลล์ของถั่วงอกเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เมื่อถั่วงอกเหล่านี้ถูกบริโภค สารพิษที่สะสมในถั่วงอกอาจสะสมในร่างกาย ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นในการกำจัดสารพิษนั้น สภาพนี้หากยืดเยื้ออาจทำให้ตับเสียหายและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพคือลดการบริโภคถั่วงอกในอาหาร หรือหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเพื่อรักษาสุขภาพตับให้แข็งแรง

แพทย์ยังเตือนว่า เมื่อมีอาการที่บ่งชี้ถึงความผิดปกติของตับ ควรไปพบแพทย์ทันที

การเรอและผายลมบ่อยขึ้น

การเรอและผายลมเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคน แต่หากคุณสังเกตเห็นว่าการผายลมของคุณเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติในวันหนึ่ง โดยที่ไม่ได้กินอาหารแปลกใหม่ใด ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าตับของคุณอาจได้รับความเสียหาย เนื่องจากเมื่อมีปัญหากับตับ จะส่งผลให้กระบวนการขับน้ำดีถูกขัดขวาง และระบบย่อยอาหารก็ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดการสะสมของแก๊สมากขึ้นกว่าปกติ

ลมหายใจมีกลิ่นเหม็นอย่างฉับพลัน

เมื่อเกิดความเสียหายที่ตับ จะส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย ทำให้สารพิษและของเสียไม่สามารถถูกย่อยสลายได้ทันเวลาและสะสมในร่างกาย ของเสียที่สะสมเหล่านี้จะถูกย่อยสลายเป็นไนโตรเจนและแอมโมเนีย ซึ่งไม่สามารถขับออกจากร่างกายได้ จึงถูกขับออกทางลมหายใจ ทำให้เกิดกลิ่นปาก ซึ่งไม่สามารถปรับปรุงได้ด้วยการแปรงฟัน

การปรากฏของไฝแมงมุม

นี่เป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนของความเสียหายที่ตับ ไฝแมงมุม ตามชื่อที่เรียกกัน เป็นจุดแดงที่คล้ายกับตาข่ายแมงมุม เกิดจากการที่ตับได้รับความเสียหายและไม่สามารถทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกินในร่างกายถูกยับยั้งได้ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว

โรคตับที่กำเริบมักมาพร้อมกับอาการเหล่านี้:

• ปวดและบวมที่ท้องหรือบริเวณท้องอย่างผิดปกติ
• ท้องผูกหรือท้องเสีย
• เล็บมือขรุขระ มีรอยยาวตามแนวเล็บ ซีดและหักง่าย
• ผิวหนังเริ่มมีสีเหลือง หรือแม้แต่คล้ำและหมอง
• ไม่มีความอยากอาหาร กินอะไรไม่ลง และรู้สึกคลื่นไส้เมื่อเห็นอาหารที่มีไขมันสูง