
กินสิ่งนี้ทุกวัน! ปู่เผยเคล็ดลับ ความดันสูงมา 20 ปีแต่ "ไม่เคยป่วย" โรคหลอดเลือดสมอง
ชายวัย 60 เป็นโรคความดันโลหิตสูงมานาน 20 ปี แต่ไม่เคยเส้นเลือดในสมองแตก เผยเคล็ดลับ “ผักที่กินทุกวัน”
เรื่องราวน่าสนใจจากสื่อจีนกำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง หลังชายวัย 60 ปีรายหนึ่ง ซึ่งป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงมานานถึง 20 ปี กลับไม่เคยประสบกับภาวะหลอดเลือดสมองแตก หัวใจวาย หรือปัญหาสุขภาพร้ายแรงใดๆ เลย ทั้งที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เขาเปิดเผยว่า เคล็ดลับสำคัญคือการกิน "บล็อกโคลี" ทุกวันไม่เคยขาดตลอด 20 ปี แม้ฟังดูธรรมดาเกินไป แต่แพทย์ที่ตรวจสุขภาพเขาทุกปีต่างยืนยันว่า เส้นเลือดยังคงยืดหยุ่นดี ไม่มีสัญญาณของความเสื่อมหรือการอักเสบที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยความดันสูงเรื้อรัง
ความดันโลหิตสูงไม่ได้แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก จึงถูกเรียกว่า “ฆาตกรเงียบ” เพราะหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองป่วย จนกว่าจะเกิดอาการรุนแรง เช่น หัวใจล้มเหลวหรือเส้นเลือดในสมองแตก สิ่งที่ทำให้โรคนี้อันตรายคือ เมื่อเส้นเลือดแข็งตัวหรือเสื่อมสภาพ มันสามารถนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดสมองอุดตัน หัวใจขาดเลือด หรือไตวาย แม้ไม่มีอาการนำมาก่อน
แล้วทำไม “บล็อกโคลี” ถึงช่วยป้องกันได้? บล็อกโคลีเป็นผักที่พบได้ทั่วไปในตลาดไทย และราคาย่อมเยา แต่กลับอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลหลอดเลือดและควบคุมความดัน ได้แก่
-
โพแทสเซียม: ช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย ลดความดันเลือด
-
ไฟเบอร์: ส่งเสริมระบบย่อยอาหารและควบคุมน้ำตาลในเลือด
-
วิตามิน C, K, A และกรดโฟลิก: บำรุงหลอดเลือดและลดการอักเสบ
ที่สำคัญที่สุดคือ สารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อบล็อกโคลีถูกเคี้ยวหรือหั่น ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการทดลองในหนูที่มีภาวะความดันสูง พบว่า กลุ่มที่ได้รับซัลโฟราเฟนมีระดับความดันลดลงถึง 16% และสุขภาพหลอดเลือดดีขึ้นอย่างชัดเจน
แม้ชายวัย 60 ปีคนนี้จะไม่ใช่คนที่ดูแลสุขภาพอย่างสมบูรณ์แบบ เขานอนดึก ออกกำลังกายน้อย และมีน้ำหนักเกิน แต่เขากลับไม่มีภาวะแทรกซ้อนของโรคความดัน เพราะ “บล็อกโคลี” ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยพื้นฐานที่เสริมความแข็งแรงให้หลอดเลือด และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน แห่งเดนมาร์ก ยังพบว่าคนที่บริโภคผักตระกูลกะหล่ำอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการสะสมของไขมันในหลอดเลือดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะไม่ดูแลสุขภาพด้านอื่นดีนัก
บล็อกโคลี คือผักที่ “ทำหน้าที่มากกว่าอาหาร” เพราะนอกจากการควบคุมความดัน บล็อกโคลียังมีคุณสมบัติช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลินในผู้ป่วยเบาหวาน รวมทั้งปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับความดัน, โรคสมองเสื่อม และอารมณ์ และชะลอความเสื่อมของหลอดเลือด กระตุ้นระบบต้านอนุมูลอิสระของร่างกาย สิ่งเหล่านี้สะท้อนแนวคิดใหม่ในการดูแลโรคเรื้อรัง ซึ่งไม่ใช่แค่การรักษาด้วยยาเท่านั้น แต่ต้องอาศัย “พฤติกรรมที่ยั่งยืน” โดยเฉพาะเรื่องอาหาร
สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องของปาฏิหาริย์ แต่คือ “วินัยที่ต่อเนื่อง” หลายคนมองหาอาหารมหัศจรรย์ หรือทางลัดเพื่อหายป่วย แต่สุขภาพที่ดีจริงๆ เกิดจากการดูแลแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่แค่ทำมากในระยะสั้น แต่คือทำสม่ำเสมอในระยะยาว อย่างเช่นการกินบล็อกโคลีวันละจาน อาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อทำต่อเนื่องนานหลายปี ผลลัพธ์ที่ได้อาจยิ่งใหญ่กว่าที่คิด เพียงเริ่มต้นจากจานบล็อกโคลีในมื้ออาหารวันนี้ ก็อาจเป็นก้าวเล็ก ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคใหญ่ในวันหน้า
- นักวิทย์ฯ พบ "กรุ๊ปเลือดหนึ่ง" มีปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม มากขึ้นถึง 18% เมื่อเทียบกับกรุ๊ป O
- เอาให้ชัด! "แอร์" หรือ "พัดลม" ใช้อะไรประหยัดไฟกว่า? หลายคนยังไม่รู้ความจริงข้อนี้