เตือนภัย "ท่านอน" เสี่ยงอัมพาต หนุ่มวัย 19 ทำเป็นนิสัย เลือดคั่งกดทับไขสันหลัง

เตือนภัย "ท่านอนอันตราย" หนุ่มวัย 19 ทำเป็นนิสัย เลือดคั่งกดทับไขสันหลัง เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงอกลงมา 

เสี่ยวตง (นามสมมติ) ชายหนุ่มวัย 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยปี 3 ในเมืองเฉวียนโจว ประเทศจีน ถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอันดับหนึ่งเมืองเฉวียนโจว หลังเกิดภาวะเส้นเลือดภายในโพรงกระดูกสันหลังแตกจากการก้มคอนาน ทำให้มีเลือดคั่งเฉียบพลันกดทับไขสันหลังจนเป็นอัมพาตกะทันหัน โชคดีที่ผ่าตัดรักษาได้ทัน จนแขนขาเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวได้บางส่วน แต่ยังต้องทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง

ตามรายงานของสื่อ Fujian Health News ระบุว่า เสี่ยวตงใช้ช่วงปิดภาคเรียนทำงานพิเศษในเมือง โดยทำงานร้านอาหาร ล้างจานและเช็ดโต๊ะก้มคอนานหลายชั่วโมงทุกวัน กลับถึงหอพักก็มักนอนคว่ำเล่นโทรศัพท์และเล่นเกมต่อเนื่องเกิน 2-3 ชั่วโมง พ่อแม่เคยเตือนแล้ว แต่เจ้าตัวคิดว่ายังหนุ่มแข็งแรง รับไหว จึงไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้าย

แพทย์ หวง เจี่ยฉง เปิดเผยว่า เมื่อผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาล ขาทั้งสองข้างหมดความรู้สึก เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงอกลงมา แรงแขนก็อ่อนลงอย่างชัดเจน ผลตรวจพบว่ามีเลือดคั่งขนาดใหญ่ในโพรงกระดูกสันหลังตั้งแต่คอข้อ C4 ถึง T1 กดทับไขสันหลัง แม้ผ่าตัดเอาเลือดออกและคลายการกดทับได้แล้ว แต่ต้องทำกายภาพฟื้นฟูระยะยาว

แพทย์อธิบายว่า การก้มคอนานทำให้กล้ามเนื้อด้านหลังคอรับน้ำหนักศีรษะมากขึ้น 3-5 เท่า เมื่อกล้ามเนื้ออ่อนล้าสะสม แรงกดจะถ่ายไปยังเอ็นและเส้นเลือดในโพรงกระดูกสันหลัง หากมีความผิดปกติของเส้นเลือดอยู่เดิมก็ยิ่งเสี่ยงแตกและมีเลือดออก กดทับไขสันหลังจนเป็นอัมพาตถาวรได้

แพทย์เตือนว่า กระดูกสันหลังส่วนคอเป็นจุดเปราะบางของร่างกาย ท่าทางที่ไม่ถูกต้องนาน ๆ อาจทำให้เกิดโรคกระดูกคอได้ อาการที่พบบ่อยคือ กล้ามเนื้อเกร็ง ปวดเมื่อย ชาหรือปวดร้าวแขนขา และหากมีการกดทับไขสันหลัง อาจเดินไม่มั่นคงหรือเป็นอัมพาต

เขาแนะนำว่า ปัจจุบันคนใช้สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทำให้ “กลุ่มก้มหน้า” เพิ่มจำนวน และโรคกระดูกคอพบมากขึ้นทุกปี หากมีอาการปวดคอ ชา หรืออ่อนแรง ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ไม่ควรไปรับการนวดหรือจัดกระดูกกับผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจทำให้โรครุนแรงขึ้น พร้อมแนะให้ปรับท่านั่งและท่านอนให้ถูกต้อง เลี่ยงการก้มคอนาน และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อดูแลสุขภาพกระดูกคอ