
"ถั่วลิสง" กินแค่วันละ 4 เม็ด ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองได้ จริงหรือ?
แค่ 4 เมล็ดต่อวัน! "ถั่วลิสง" ป้องกันเส้นเลือดในสมองตีบได้ จริงหรือ?
ถั่วลิสง แม้จะเป็นอาหารพื้นบ้านราคาย่อมเยา แต่ซ่อนคุณค่าทางสุขภาพไว้มากมาย โดยเฉพาะในช่วงอากาศแห้งของฤดูใบไม้ร่วง การกินถั่วลิสงเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันอาจกลายเป็น "เกราะป้องกันโรค" โดยเฉพาะในกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุ
ถั่วลิสงกับการลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
ในถั่วลิสงมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง ซึ่งช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล และลดการสะสมของไขมันในหลอดเลือด หากกินเป็นประจำในปริมาณเหมาะสม อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองได้ถึง ประมาณ 20%
นอกจากนี้ เยื่อแดงบางๆ ที่หุ้มเมล็ดถั่วลิสง ยังอุดมไปด้วย เรสเวอราทรอล (Resveratrol) สารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด
- รู้ตัวหรือยัง? "ถั่วดำ" อร่อยและดี แต่เป็นอาหาร "ต้องห้าม" สำหรับคน 4 กลุ่มนี้ ไม่กินดีกว่า!!!
- รวมมาให้เลือกกิน! ถั่ว 5 ชนิด “อินซูลินธรรมชาติ” ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ปรับระดับให้คงที่
4 คุณประโยชน์เพิ่มเติมจากถั่วลิสง
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด – ด้วยแมกนีเซียมและอาร์จินีน ที่ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2
- ส่งเสริมการย่อยอาหาร – ถั่วลิสงมีใยอาหารสูง เป็นอาหารชั้นดีของจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
- บำรุงสมอง – มีเลซิทินและวิตามินอี ที่ช่วยชะลอภาวะความจำเสื่อมในผู้สูงวัย
- ช่วยให้ผิวพรรณดูดี – อุดมด้วยสังกะสีและวิตามินบีหลายชนิด ช่วยชะลอวัยและบำรุงผิวในช่วงอากาศแห้ง
เคล็ดลับการกินถั่วลิสงให้ได้ประโยชน์
ปริมาณที่แนะนำคือ วันละ 4-5 เมล็ดแบบแกะเปลือก หรือประมาณ 15-20 กรัมของถั่วลิสงทั้งฝัก กินสัปดาห์ละ 5 วันจะเพียงพอ โดยควรกินในมื้อว่างช่วงเช้าหรือบ่าย เพื่อไม่รบกวนมื้อหลัก
สามารถกินคู่กับโยเกิร์ตเพื่อช่วยดูดซึมแคลเซียม หรือปรุงร่วมกับรากบัวเพื่อช่วยบำรุงม้ามและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
ใครควรระวังการกินถั่วลิสง?
- ผู้ที่มีปัญหาถุงน้ำดี ควรหลีกเลี่ยง เพราะถั่วลิสงมีไขมันสูง ต้องใช้น้ำดีในการย่อย
- ผู้ป่วยเกาต์ ไม่ควรกินในช่วงที่อาการกำเริบ เพราะอาจกระตุ้นอาการ
- ผู้แพ้ถั่ว ควรเริ่มจากปริมาณน้อยมาก หากมีอาการแพ้ เช่น คัน หรือหายใจลำบาก ควรหยุดทันทีและรีบพบแพทย์
แม้จะเป็นเพียงอาหารเล็กๆ แต่ถั่วลิสงมีคุณประโยชน์มากมาย หากรู้จักเลือกกินให้เหมาะสมและพอดี ก็อาจกลายเป็น "ของดีราคาถูก" ที่ช่วยดูแลสุขภาพได้โดยไม่ต้องพึ่งอาหารราคาแพง