หนุ่มอายุแค่ 29 ดับสลด เตือนไม่อยากป่วยหนัก ควรงดมื้อเช้า 3 อย่างนี้ ย้ำเวลาที่กินก็สำคัญ!
ชายวัย 29 ปีเสียชีวิตจากโรคเบาหวาน เตือนมื้อเช้า 3 ประเภท "หยุดกิน" ถ้าไม่อยากเสี่ยงโรคร้าย พร้อมย้ำเวลาอาหารก็สำคัญ
อาหารเช้าเป็นมื้อแรกของวัน และเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดตลอดทั้งวัน
รายงานจาก The Paper เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ระบุว่า ชายหนุ่มชื่อ ลี่หมิง (จีน) เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน โดยลี่หมิงเป็นเกมเมอร์ที่ทำงานอยู่บ้านเป็นเวลานานและขาดการออกกำลังกาย เมื่อหิวจะสั่งอาหารจากข้างนอกมาทาน
ก่อนเสียชีวิต ลี่หมิงมีน้ำหนักมากกว่า 180 กิโลกรัม และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดของเขาสูงถึง 90 มิลลิโมล/ลิตร ซึ่งมากกว่าค่าปกติที่อยู่ระหว่าง 4.0 - 7.2 มิลลิโมล/ลิตรอย่างมาก
เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงและผันผวน ลี่หมิงจึงเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนรุนแรงหลายอย่าง เช่น ภาวะไตวาย ตับวาย ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง และภาวะเม็ดเลือดขาวสูง ซึ่งเป็นอาการของภาวะกรดคีโตจากน้ำตาลในเลือดสูง น่าเศร้าที่หลังจากป่วยได้ไม่นาน ลี่หมิงได้เสียชีวิตในวัยที่ยังค่อนข้างหนุ่ม
โรคเบาหวานที่ถูกวินิจฉัยใน "วัยหนุ่ม" เสี่ยงเสียชีวิตสูง
ในการศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Diabetes and Endocrinology นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษากับผู้คนกว่า 1.51 ล้านคน โดยหวังว่าจะพบความเชื่อมโยงระหว่างโรคเบาหวานประเภท 2 และความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ
ผลการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีอายุระหว่าง 30 ถึง 39 ปี มีความเสี่ยงเสียชีวิตจากทุกสาเหตุเพิ่มขึ้น 169% ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีอายุระหว่าง 40 ถึง 39 ปี มีความเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 126% เช่นเดียวกัน ผู้ที่มีอายุระหว่าง 50 ถึง 59 ปี มีความเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 84%
ผลการศึกษาครั้งนี้ยืนยันว่า ยิ่งอายุที่ได้รับการวินิจฉัยโรคเบาหวานน้อยเท่าใด ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ควรงดอาหารเช้า 3 ประเภทนี้ ถ้าไม่อยากน้ำตาลพุ่ง
อาหารเช้าเป็นมื้อแรกของวันและสำคัญต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากต้องการป้องกันโรคเบาหวาน ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ในมื้อเช้า
1. อาหารทอด
อาหารทอด เช่น โดนัท ไก่ทอด เป็นที่นิยมในมื้อเช้า แต่มีไขมันสูงและไม่ดีต่อหัวใจ นอกจากนี้ การทอดที่อุณหภูมิสูงอาจก่อให้เกิดสารอันตรายอย่างอะคริลาไมด์และไฮโดรคาร์บอนหลายวงแหวน ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ การบริโภคเป็นประจำเสี่ยงทำให้อ้วนและเพิ่มโอกาสเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจ
2. ของหวาน
ขนมปัง เบเกอรี่ และของหวานมื้อเช้า มีคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งจะทำให้น้ำตาลในเลือดและอินซูลินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กดดันตับอ่อนและส่งผลเสียต่อสุขภาพ
3. อาหารจานด่วน
อาหารจานด่วนมักมีน้ำตาล มอลโตเด็กซ์ตริน และเครื่องปรุงรสที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทาน นอกจากนี้ยังทำให้อิ่มไม่ทน จึงเสี่ยงกินเกินความจำเป็น
- กูรูสหรัฐฯ พูดชัด 1 อาหารที่ "ไม่มีวันกิน!!!" เพราะแบคทีเรียเยอะมาก แต่คนไทยยังกินอยู่
- ชายไม่ดื่ม-ไม่สูบ นอนตัวเหลืองรอ "เปลี่ยนตับ" หมอชี้ต้นเหตุ "น้ำโปรด" ที่ไม่ใช่เหล้าเบียร์!
เวลารับประทานอาหารเช้าก็สำคัญ
เวลาอาหารเช้าก็สำคัญเช่นกัน งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Epidemiology พบว่าผู้ที่รับประทานอาหารเช้าหลัง 8.00 น. มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 มากกว่าผู้ที่รับประทานอาหารก่อน 8.00 น. เพิ่มขึ้นถึง 59% โดยการรับประทานอาหารเช้าช่วงเวลาระหว่าง 7.00-8.00 น. และเว้นช่วงระหว่างมื้อเที่ยง 4-5 ชั่วโมง จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่า
5 สัญญาณเตือนว่าเบาหวานกำลังรุนแรงขึ้น
