
ผักสามัญประจำบ้าน 1 ชนิด ประโยชน์เกินคาด ลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน
หัวหอม : ผักราคาถูกช่วยลดไขมันในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า “หัวหอม” เป็นผักธรรมดาที่มีประโยชน์ไม่ธรรมดา เพราะสามารถช่วยลดไขมันในเลือดและป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเป็นผักที่หาซื้อได้ทั่วไปในประเทศไทย
หัวหอมกับประโยชน์ในการลดไขมันในเลือด
เพนนี เวสตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการจากสหราชอาณาจักร ระบุว่าหัวหอมเป็นอาหารที่ผ่านการศึกษามากมาย และพบว่ามีคุณสมบัติช่วยบำรุงหัวใจและลดไขมันในเลือดได้จริง ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร *Food Science and Nutrition* ปี 2021 วิเคราะห์ข้อมูลจากอาสาสมัคร 440 คน พบว่าการบริโภคหัวหอมช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ หัวหอมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบ ซึ่งช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อีกทั้งยังมีงานวิจัยในกลุ่มสตรีที่มีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) พบว่าการรับประทานหัวหอมแดงสดวันละ 40–60 กรัม ติดต่อกัน 8 สัปดาห์ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีได้เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้บริโภค
ผลลัพธ์ที่คล้ายกันยังพบในงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากฮ่องกงที่ทดลองในหนู โดยหลังจากให้หนูกินหัวหอมต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ ระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีลดลงเฉลี่ยราว 20%
หัวหอมกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
นอกจากช่วยลดไขมันในเลือดแล้ว หัวหอมยังมีฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลในเลือดและอาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ด้วย ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดลตา สเตต ประเทศไนจีเรีย นำโดย ดร.แอนโทนี โอจีห์ พบว่าการให้สารสกัดจากหัวหอมในหนูที่เป็นเบาหวานช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ปริมาณ 400–600 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน ทำให้ระดับน้ำตาลลดลงถึง 35–50% จากเดิม
ดร.โอจีห์กล่าวว่า หัวหอมเป็นผักราคาถูก หาง่าย และใช้เป็นอาหารเสริมสุขภาพมานาน การค้นพบนี้จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่าหัวหอมอาจถูกนำมาพัฒนาเพื่อช่วยผู้ป่วยเบาหวานได้ในอนาคต
เหตุผลที่หัวหอมช่วยควบคุมไขมันและน้ำตาลได้
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า หัวหอมมีสารประกอบกำมะถันอินทรีย์และฟลาโวนอยด์ โดยเฉพาะเควอซิทิน (Quercetin) ซึ่งมีบทบาทในการกระตุ้นการทำงานของอินซูลินและช่วยให้กระบวนการเผาผลาญกลูโคสดีขึ้น เควอซิทินยังสามารถจับกับเซลล์ในลำไส้เล็ก ตับอ่อน เนื้อเยื่อไขมัน และตับ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระในหัวหอมยังช่วยลดการอักเสบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของภาวะดื้อต่ออินซูลิน แม้จะยังต้องการการศึกษาต่อในมนุษย์เพิ่มเติม แต่ผลการวิจัยในปัจจุบันได้เปิดแนวทางใหม่ในการใช้หัวหอมเป็นผู้ช่วยธรรมชาติในการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน
สรุป
หัวหอมไม่เพียงเป็นผักราคาย่อมเยาและหาง่าย แต่ยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ ลดไขมันในเลือด และควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรับประทานหัวหอมเป็นประจำจึงอาจเป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว