หนุ่มป่วยมะเร็งตับ ทั้งที่ไม่กินเหล้า ผู้ร้ายคือ "น้ำเพื่อสุขภาพ" ที่คิดว่ายิ่งดื่มยิ่งดี
หนุ่มป่วยมะเร็งตับ ทั้งที่ไม่กินเหล้า ออกกำลังกายประจำ ที่แท้ผู้ร้ายคือ "น้ำเพื่อสุขภาพ" ที่คิดว่ายิ่งดื่มยิ่งดี
น้ำผลไม้ แม้จะมีประโยชน์ถ้าดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ แต่หากดื่มมากเกินไปกลับกลายเป็น “โทษ” ต่อสุขภาพตับ และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่คาดไม่ถึง
ศัลยแพทย์ชาวไต้หวัน ดร. เจียง คุนจวิ้น (Jiang Kunjun) เตือนว่า “เครื่องดื่มหลายชนิด แม้จะดีต่อร่างกาย แต่ต้องดื่มอย่างพอเหมาะ หากดื่มมากเกินไป จะสร้างภาระให้ร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรค โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญและมะเร็ง”
หนึ่งในผู้ป่วยล่าสุดของเขา คือชายวัย 40 ปี ที่ตรวจพบ มะเร็งตับ จากการดื่มน้ำผลไม้มากเกินไปเป็นเวลาหลายปี
ชายคนนี้เติบโตจากครอบครัวยากจน กว่าจะสร้างฐานะได้ก็ทุ่มเททำงานหนัก พอมีฐานะมั่นคงจึงหันมาใส่ใจสุขภาพ งดแอลกอฮอล์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำผลไม้ทุกวันจนบางครั้งแทนน้ำเปล่า เขาเชื่อว่ายิ่งดื่มมากก็ยิ่งสุขภาพดี แต่สุดท้ายกลับต้องช็อกเมื่อพบก้อนมะเร็งร้ายในตับขนาด 1.5 ซม. พร้อมภาวะไขมันพอกตับรุนแรง
ทำไมน้ำผลไม้มากเกินไปถึงทำร้ายตับ?
-
การกินผลไม้ทั้งผล ร่างกายจะได้ ไฟเบอร์ ที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลและทำให้อิ่ม
-
แต่เมื่อนำมาแยกน้ำ ไฟเบอร์เกือบทั้งหมดถูกกำจัด เหลือเพียง ฟรุกโตสเข้มข้น
-
น้ำตาลฟรุกโตสนี้เข้าสู่กระแสเลือด และถูกส่งไปที่ ตับ เพื่อย่อยสลาย
-
หากตับต้องทำงานหนักเกินไป ส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน สะสมจนกลายเป็น ไขมันพอกตับ, ตับอักเสบ, ตับแข็ง และมะเร็งตับ
-
ยิ่งแย่หากเติมน้ำตาล นมข้น หรือไซรัป จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยง

อันตรายนอกเหนือจากตับ
-
น้ำหนักขึ้นเร็ว
-
ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง เสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2
-
ไขมันในเลือดสูง
-
กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย
-
งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่ายังเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด
คำแนะนำของแพทย์
-
น้ำผลไม้ ไม่ควรแทนน้ำเปล่า
-
ควรดื่มไม่เกิน 200–350 มล./วัน
-
ไม่ดื่มตอนท้องว่าง ให้ดื่มหลังมื้ออาหาร
-
เลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัด (เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง ส้ม)
-
หลีกเลี่ยงผลไม้หวานมาก (เช่น องุ่น มะม่วง ทุเรียน)
-
ห้ามเติมน้ำตาล นมข้น หรือไซรัป
-
การกินผลไม้ทั้งผลยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
นอกจากนี้ ควรตรวจสุขภาพประจำปี และรีบพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น ตื่นกลางดึกบ่อย อ่อนเพลีย น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดตับ หรือมีไข้ช่วงเย็น