
รู้จัก "สารก่อมะเร็ง" กลุ่มที่อันตรายที่สุด พบในชีวิตประจำวัน ใกล้ตัวจนเลี่ยงยาก
รู้จักสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 อันตรายที่สุด พบในชีวิตประจำวัน หลายอย่างใกล้ตัวจนหลีกเลี่ยงยาก
สารก่อมะเร็ง (Carcinogens) คือสารหรือปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในมนุษย์ได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สัมผัสสารเหล่านี้จะเกิดมะเร็งทันที ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับปริมาณ ระยะเวลา และลักษณะการสัมผัส
IARC (International Agency for Research on Cancer) หน่วยงานด้านวิจัยมะเร็งขององค์การอนามัยโลก ได้แบ่งสารก่อมะเร็งในมนุษย์ออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่ม 1: Carcinogenic to humans (ชัดเจนแล้วว่าก่อมะเร็งในมนุษย์)
สารในกลุ่มนี้มีหลักฐานชัดเจนว่าสามารถก่อมะเร็งในคนได้ การหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการสัมผัสสารเหล่านี้เป็นวิธีป้องกันมะเร็งที่สำคัญ
-
อะฟลาทอกซิน (Aflatoxins) – สารพิษจากเชื้อราในกลุ่ม Aspergillus ที่พบมากในพืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าวโพด ถั่วลิสง ถั่วเปลือกแข็ง และเมล็ดธัญพืช เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับและท่อน้ำดี
-
เนื้อแปรรูป – เช่น ไส้กรอก แฮม เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้
-
แอลกอฮอล์ – เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับ ปาก คอ และเต้านม
-
ปลาเค็ม – การทำปลาเค็มแบบดั้งเดิม หรือ ปลาเค็มสไตล์จีน มีไนโตรซามีน เพิ่มความเสี่ยงของ มะเร็งโพรงหลังจมูก และอาจเกี่ยวข้องกับมะเร็งระบบทางเดินอาหารบางชนิด
-
บุหรี่และควันบุหรี่ – มีความเสี่ยงต่อมะเร็งปอด ปาก และลำคอ
-
ฝุ่น PM2.5 – ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เพิ่มความเสี่ยงโรคปอดเรื้อรัง หรือมะเร็งปอด
-
เบนโซ[a]ไพรีน (Benzo[a]pyrene) – สารที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์ พบได้ใน ควันธูป , การเผาน้ำมัน, ควันรถยนต์ และอาหารปิ้งย่างด้วยถ่าน เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระเพาะอาหาร
-
แอสเบสตอส (Asbestos) หรือ แร่ใยหิน – เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดและมะเร็งเยื่อหุ้มปอด
-
แสงแดดและรังสียูวี (UV) – เสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
-
HPV – เชื้อไวรัสที่ก่อมะเร็งปากมดลูก
-
ไวรัสตับอักเสบ B และ C – เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับ
กลุ่ม 2A: Probably carcinogenic to humans (น่าจะก่อมะเร็งในมนุษย์)
สารในกลุ่มนี้มีหลักฐานว่าน่าจะก่อมะเร็ง แต่ยังไม่ชัดเจนเท่ากลุ่ม 1
-
Acrylamide – เกิดจากอาหารที่ปรุงด้วยความร้อนสูง เช่น มันฝรั่งทอด ขนมปังปิ้ง
-
เนื้อแดง (Red meat)
-
Glyphosate – สารกำจัดวัชพืชที่ใช้แพร่หลาย
-
เครื่องดื่มร้อนเกิน 65°C – เช่น ชา กาแฟ ที่ร้อนจัด
-
Anabolic steroids – สเตอรอยด์เพิ่มกล้ามเนื้อ
-
สารตะกั่ว (Lead compounds) บางชนิด
-
Dieldrin – ยาฆ่าแมลง
-
Shift work (การทำงานกะกลางคืน) ที่รบกวนวงจรนาฬิกาชีวภาพ
กลุ่ม 2B: Possibly carcinogenic to humans (อาจก่อมะเร็งในมนุษย์)
สารในกลุ่มนี้มีหลักฐานจำกัดและยังไม่ชัดเจน
-
Pickled vegetables แบบดั้งเดิม (ผักดองบางชนิดในเอเชีย)
-
Gasoline engine exhaust (ควันจากเครื่องยนต์เบนซิน)
-
Radiofrequency electromagnetic fields (รังสีคลื่นวิทยุจากมือถือ/อุปกรณ์สื่อสาร)
-
Aloe vera (whole leaf extract) สารสกัดจากว่านหางจระเข้ทั้งใบ
-
สารเคมีในอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น Carbon black, Printing ink
-
น้ำมันดิน (Coal tar) และสีบางชนิด
กลุ่ม 3: Not classifiable (ไม่สามารถจัดกลุ่มได้แน่ชัด)
สารในกลุ่มนี้ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสรุปว่าก่อมะเร็งหรือไม่
-
คอเลสเตอรอล
-
Titanium dioxide (บางรูปแบบ)
-
Fluorescent lighting (แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์)
-
สารบางชนิดที่อยู่ระหว่างการวิจัย
-
อาหารหรือสมุนไพรบางชนิดที่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน
สรุป
การรู้จักสารก่อมะเร็งและการแบ่งกลุ่มตาม IARC จะช่วยให้เราเข้าใจความเสี่ยงและสามารถปรับพฤติกรรมเพื่อลดโอกาสเกิดมะเร็งได้ การหลีกเลี่ยงหรือจำกัดสารในกลุ่ม 1 เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่อันตรายที่สุดและมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่าก่อมะเร็งได้