.jpg)
ไขข้อสงสัย ตัดผลไม้ส่วนที่เสียออก แล้วกินส่วนที่เหลือต่อได้หรือไม่?
เพื่อความประหยัด หลายคนมักมีพฤติกรรมตัดส่วนของผลไม้ที่เน่าเสียออก แล้วนำส่วนที่เหลือมาบริโภคต่อ วิธีการนี้ปลอดภัยหรือไม่?
ในระหว่างการเก็บรักษา ผลไม้ต่าง ๆ เช่น แอปเปิล, แคนตาลูป, พีช, ลูกแพร์ อาจเกิดความเสียหายเพียงบางส่วน ด้วยความที่ส่วนอื่นยังดูดีอยู่ หลายคนจึงพยายามใช้ประโยชน์จากมันโดยการตัดส่วนที่เสียทิ้งแล้วกินส่วนที่เหลือต่อ
ควรตัดส่วนที่เสียแล้วกินต่อหรือไม่?
ตามรายงานของ Health Sina งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่า ผลไม้ที่เน่าเสียจากการติดเชื้อราหรือแบคทีเรียได้ผลิต สารพิษร้ายแรง ออกมา สารพิษเหล่านี้สามารถ ซึมผ่านน้ำในผลไม้ไปยังส่วนที่ยังไม่เน่าเสียได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นแม้ว่าผลไม้ส่วนนั้นจะดูปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันได้ปนเปื้อนด้วยจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารพิษ Penicillium difficile ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจทำให้เกิดความผิดปกติของลำไส้, อาการบวมที่ไต, และอาจนำไปสู่โรคมะเร็งได้
ตามข้อมูลของ USDA (กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา) เมื่อผลไม้ (โดยเฉพาะผลไม้เนื้อนุ่ม เช่น พีช, ส้ม, สตรอว์เบอร์รี) ขึ้นราหรือเน่าเสีย เส้นใยของเชื้อราไม่ได้เจริญเติบโตแค่บนพื้นผิวเท่านั้น แต่ยังแพร่ลึกเข้าไปในเนื้อผลไม้ด้วย ดังนั้น แม้จะตัดส่วนที่เสียออกไปแล้ว จุลินทรีย์และสารพิษก็ยังสามารถหลงเหลืออยู่ในส่วนที่ "ดูเหมือนปกติ" ได้
เชื้อราบางชนิดยังสร้าง ไมโคทอกซิน (Mycotoxin) เช่น อะฟลาทอกซิน (aflatoxin), พาทูลิน (patulin), และโอคราทอกซิน (ochratoxin) ซึ่งเป็นสารที่ อาจก่อให้เกิดมะเร็ง และทำลายตับ, ไต, และระบบภูมิคุ้มกันได้
ดังนั้นไม่ควรตัดส่วนที่เสียหายของผลไม้แล้วนำส่วนที่เหลือมาบริโภคต่อ วิธีที่ดีที่สุดคือควรทิ้งผลไม้นั้นไปทันทีเมื่อพบว่ามีความเสียหาย ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม
วิธีเลือกผลไม้ที่สดและอร่อย
เมื่อซื้อผลไม้ ควรเลือกผลที่ ยังคงความสด และมี กลิ่นหอมตามธรรมชาติ ผลไม้ที่สุกตามธรรมชาติมักจะมีกลิ่นหอม ในขณะที่ผลไม้ที่ถูกเร่งให้สุกมักจะไม่มีกลิ่น ควรเลือกผลไม้ที่ สมบูรณ์ไม่ช้ำ เปลือกนอกไม่มีรอยขีดข่วนหรือจุดแปลก ๆ มีสีสม่ำเสมอและสดใส เมื่อลองจับดูควรรู้สึก แน่น มีน้ำหนัก ไม่นิ่มหรือเละจนเกินไป
วิธีเก็บรักษาผลไม้ให้ถูกต้อง
หลังเลือกผลไม้ที่ถูกใจแล้ว ควรเก็บรักษาอย่างเหมาะสม วิธีที่นิยมที่สุดคือการใส่ตู้เย็น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลไม้สดนานและมีคุณภาพดี ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้:
-
อย่าล้างผลไม้ก่อนเข้าตู้เย็น: โดยธรรมชาติแล้ว ผลไม้แต่ละชนิดมักมี สารเคลือบผิวตามธรรมชาติ ที่ช่วยปกป้องผลไม้จากการบุกรุกของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ดังนั้น ไม่ควรล้างผลไม้ก่อนนำเข้าตู้เย็น ควรล้างเฉพาะก่อนนำมารับประทานเท่านั้น
-
ทำความสะอาดด้วยการเช็ด: แทนที่จะใช้น้ำล้าง คุณสามารถใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูเช็ดทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะอยู่บนเปลือกนอกก่อนนำเข้าตู้เย็นได้
-
ใช้ถุงตาข่ายหรือถุงที่มีรูระบายอากาศ: ไม่ควรเก็บผลไม้ไว้ในถุงหรือกล่องที่ปิดสนิท ถุงตาข่าย เป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี ทำให้เปลือกนอกสัมผัสกับอากาศเย็น และลดการกระแทก หากใช้ถุงพลาสติก ควรเจาะรูเพื่อให้มีการระบายอากาศ
-
แยกเก็บผลไม้และผัก: ไม่ควรวางผลไม้และผักไว้ใกล้กันในตู้เย็น เนื่องจากเมื่อผลไม้สุก จะมีการผลิตก๊าซที่เรียกว่า เอทิลีน (Ethylene) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาอันทรงพลังที่ เร่งให้ผักเน่าเสียเร็วขึ้น