เนื้อหาในหมวด ข่าว

5 พฤติกรรมในครัว เสี่ยง “มะเร็งปอด” แม้ไม่สูบบุหรี่ ฆาตกรเงียบจากการทำอาหาร

5 พฤติกรรมในครัว เสี่ยง “มะเร็งปอด” แม้ไม่สูบบุหรี่ ฆาตกรเงียบจากการทำอาหาร

5 พฤติกรรมในห้องครัว เสี่ยง “มะเร็งปอด” แม้ไม่สูบบุหรี่

มะเร็งปอดเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในบรรดาโรคมะเร็งทั้งหมด สิ่งที่น่ากังวลคือ จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) และสมาคมมะเร็งอเมริกัน พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดจำนวนมากไม่เคยสูบบุหรี่เลย โดยเฉพาะในผู้หญิงซึ่งมีถึง 90% ที่ไม่เคยแตะบุหรี่

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า “ควันน้ำมันจากการทำอาหาร” คือ ฆาตกรเงียบ ที่ทำให้หลายคน โดยเฉพาะผู้หญิง เสี่ยงมะเร็งปอดแม้ไม่เคยสูบบุหรี่เลยสักครั้ง  

5 พฤติกรรมทำอาหารที่ทำร้ายปอดโดยไม่รู้ตัว

1. รอให้น้ำมันร้อนจนมีควันก่อนใส่อาหาร

เมื่อความร้อนสูงเกินไป น้ำมันจะปล่อยอนุภาคขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดได้ลึก ทำให้เสี่ยงต่อมะเร็ง นอกจากนี้ กลีเซอรีนในน้ำมันที่ไหม้จะเปลี่ยนเป็นสารพิษชื่อ “อะโครลีน (acrolein)” ซึ่งทำให้ระคายเคืองตา จมูก ปาก และระบบทางเดินหายใจ หากยังคงใช้ไฟแรงต่อเนื่อง จะเกิดสารไนโตรเจนออกไซด์และสารพิษอื่น ๆ ที่อาจทำให้เวียนหัว อ่อนเพลีย หรือถึงขั้น “สูดดมควันน้ำมันจนเป็นพิษ”

การวิจัยยังพบว่า การทำงานในครัวที่มีควันน้ำมันมากเป็นเวลานานอาจทำให้ผิวหนังหมองและเกิดความผิดปกติของการเผาผลาญจากการสะสมสารพิษใต้ผิวหนัง

2. ทำอาหารโดยไม่เปิดเครื่องดูดควัน

อาหารเอเชียโดยเฉพาะเมนูผัด ทอด ย่าง จะปล่อยควันพิษและฝุ่นละเอียดมากกว่าควันรถยนต์ วิธีป้องกันง่าย ๆ คือใช้เครื่องดูดควันให้ถูกต้อง:

  • เปิดเครื่องดูดควันก่อนเริ่มทำอาหาร ไม่ใช่รอจนควันขึ้น
  • เปิดทิ้งไว้ตลอดเวลาทำอาหาร พร้อมเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท

3. ปิดเครื่องดูดควันทันทีหลังทำอาหาร

หลายคนมักปิดเครื่องดูดควันทันทีที่ดับเตา ซึ่งเป็นพฤติกรรมอันตราย เพราะควันน้ำมันยังคงลอยอยู่ในอากาศอีกหลายนาที หากปิดเร็วเกินไป ควันทั้งหมดจะถูกสูดกลับเข้าสู่ปอด ควรเปิดเครื่องทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาทีหลังทำอาหาร โดยเฉพาะในครัวแบบเปิด

4. ไม่ล้างกระทะก่อนทำเมนูต่อไป

การใช้กระทะที่มีเศษอาหารและน้ำมันตกค้างอยู่ในการผัดเมนูต่อไป อาจก่อให้เกิดสารก่อมะเร็งชนิดร้ายแรง “เบนโซไพรีน (Benzo[a]pyrene)” ซึ่งถูกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 โดยองค์การวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ (IARC) สารนี้เกิดขึ้นเมื่ออาหารและน้ำมันไหม้เกิน 200°C และสามารถซึมเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจ การย่อย หรือผ่านผิวหนัง ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนกลายเป็นมะเร็ง

5. ล้างกระทะทันทีหลังยกลงจากเตา

นี่คือพฤติกรรมที่อันตรายแต่คนทำกันบ่อยที่สุด เมื่อเทน้ำเย็นใส่กระทะที่ยังร้อนจัด น้ำจะระเหยทันทีและปล่อยควันน้ำมันเข้มข้นที่เต็มไปด้วยโมเลกุลไขมันในอากาศ ซึ่งสามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและสะสมในปอด จนก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบเรื้อรัง หรือแม้แต่มะเร็งปอดในระยะยาว

คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ

มะเร็งปอดไม่ใช่โรคของคนสูบบุหรี่เท่านั้น คนทำอาหาร แม่บ้าน หรือพนักงานในครัวที่ปิดทึบ ก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงเช่นกัน เพียงปรับพฤติกรรมง่าย ๆ เช่น ลดความร้อนขณะทอด เปิดเครื่องดูดควันก่อนเริ่มทำอาหาร และรอให้กระทะเย็นก่อนล้าง ก็สามารถลดการรับสารก่อมะเร็งได้อย่างมากในแต่ละวัน

เช็กความเสี่ยง \

เช็กความเสี่ยง "มะเร็งปอด" ระยะเริ่มต้น ใช้เวลาไม่กี่วินาที สังเกตง่ายๆ ที่เล็บมือ

วิธีเช็กความเสี่ยง "มะเร็งปอด" ระยะเริ่มต้น ใช้เวลาไม่กี่วินาทีทำมือท่านี้ สังเกตง่ายๆ ที่เล็บ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งปอด ป่วยมะเร็งปอด วิจัยตัวเอง 3 ปี ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งปอด ป่วยมะเร็งปอด วิจัยตัวเอง 3 ปี ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งปอด ป่วยมะเร็งปอดระยะ 4 วิจัยตัวเอง 3 ปี เผยเป็นเกียรติที่ได้สัมผัสประสบการณ์ตรง

ชายเจ็บคอ ช็อกพบมะเร็ง 2 ชนิดพร้อมกัน หมอยังดุ 2 นิสัย \

ชายเจ็บคอ ช็อกพบมะเร็ง 2 ชนิดพร้อมกัน หมอยังดุ 2 นิสัย "อันตรายถึงชีวิต" ไม่ใช่แค่ดื่มเหล้า!

ชายตรวจพบมะเร็ง 2 ชนิดพร้อมกันหลังจากตรวจอาการเจ็บคอ โดนหมอดุว่าทำ 2 นิสัย "อันตรายถึงชีวิต"