เช็กข่าวชัวร์ : ใช้ คนละครึ่งพลัส ซื้อ "เหล้า-บุหรี่-ลอตเตอรี่" มีโทษถึงจำคุกจริงหรือ?
ตรวจสอบข่าว “โครงการคนละครึ่งพลัส” ห้ามซื้อสลากกินแบ่งฯ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ จริงหรือไม่
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 มีการแชร์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า “โครงการคนละครึ่งพลัส” ห้ามนำวงเงินไปใช้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยอ้างว่ามีการกำหนดโทษปรับและจำคุกสำหรับผู้ฝ่าฝืน ทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความสับสนว่าเป็นข้อเท็จจริงตามประกาศของรัฐบาลหรือไม่
กองบรรณาธิการ Sanook News ตรวจสอบข้อเท็จจริง (Fact Check) ตามประเด็นข่าวปลอมดังกล่าว เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์
คำถาม
จริงหรือไม่ที่ “โครงการคนละครึ่งพลัส” ห้ามใช้สิทธิเพื่อซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาสูบ และมีโทษจำคุกหากฝ่าฝืน?
การตรวจสอบ
จากการตรวจสอบข้อมูลกับเว็บไซต์ทางการของกระทรวงการคลัง และโครงการ “คนละครึ่งพลัส” พบว่า โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนลดภาระค่าครองชีพ โดยให้ใช้สิทธิซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงสินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบทางการเกษตรเท่านั้น เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568
ทั้งนี้ ในเอกสารเงื่อนไขการใช้สิทธิ ได้มีการระบุ “สินค้าต้องห้าม” ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึง สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล การทอนเงินสด และการใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริงผ่านบริการ Food Delivery
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเตือนว่า หากพบว่าผู้ได้รับสิทธิขายสิทธิให้ผู้อื่น หรือร้านค้าร่วมมือใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อขายจริง จะถือเป็นการกระทำผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาล รวมถึงต้องคืนเงินให้รัฐ
จากการตรวจสอบทั้งหมด ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ตรงกับเงื่อนไขทางการของโครงการคนละครึ่งพลัส ไม่ใช่ข่าวปลอม และไม่ใช่การแต่งข้อความขึ้นมาใหม่
ข้อเท็จจริง
ข้อมูลดังกล่าว “เป็นความจริง” โครงการคนละครึ่งพลัส ห้ามใช้สิทธิซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของกระทรวงการคลัง โดยมีบทลงโทษชัดเจนสำหรับผู้ฝ่าฝืน