การ "ถอนหายใจ" ทำให้อายุสั้นลงจริงไหม? งานวิจัยเฉลยคำตอบที่พลิกทุกความเชื่อ
หงุดหงิด เหนื่อยใจ หรือถอนหายใจบ่อย? รู้หรือไม่ “การถอนหายใจ” ดีต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด
ทุกคนต่างเคยถอนหายใจ ไม่ว่าจะเพราะเหนื่อย เบื่อ หรือรู้สึกหงุดหงิด แต่แท้จริงแล้ว การ “ถอนหายใจ” ไม่ได้มีแต่ผลทางอารมณ์เท่านั้น งานวิจัยล่าสุดพบว่ามันยังมีประโยชน์ทางกายภาพที่ดีต่อสุขภาพด้วย
ถอนหายใจ = รีเซ็ตร่างกายและจิตใจ
หลังจากถอนหายใจออกลึก ๆ หลายคนมักรู้สึก “โล่งอก” หรือ “เบาสบาย” ในหน้าอก ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances พบว่า การหายใจเข้าลึกและผ่อนออกยาวกว่าปกติ ช่วยลดแรงตึงผิวในปอดได้มากกว่าการหายใจตื้น ๆ แบบทั่วไป
ในขณะปอดขยายและหดตัวระหว่างการถอนหายใจ ของเหลวจำนวนเล็กน้อยที่เคลือบอยู่ภายในปอดจะกระจายตัวอย่างเหมาะสม ทำให้เนื้อเยื่อชุ่มชื้นและลดแรงเสียดทานระหว่างการหายใจ ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจทำงานราบรื่นขึ้น
หายใจตื้นนาน ๆ ไม่ดีต่อปอด
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การหายใจสั้นและตื้นเป็นนิสัยอาจทำให้การหายใจยากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เพราะความยืดหยุ่นของปอดจะลดลงตามเวลา การถอนหายใจยาว ๆ จึงช่วยให้ปอดคงความยืดหยุ่นไว้ได้ และช่วยผ่อนคลายความเครียดในทันที
“Cyclic Sighing” เทคนิคการหายใจที่ช่วยคลายเครียด
เทคนิค “Cyclic Sighing” หรือการหายใจเข้าลึกและผ่อนออกยาวอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปแบบหนึ่งของการฝึกหายใจที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดความเครียดได้จริง โดยหากทำต่อเนื่องวันละประมาณ 5 นาที จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น และทำให้อัตราการหายใจช้าลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ถอนหายใจ...ไม่ใช่แค่เพราะเหนื่อยใจ
การถอนหายใจไม่ได้เป็นเพียงสัญญาณของความเบื่อหรือความเศร้า แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบทางเดินหายใจอีกด้วย ในบางครั้งถุงลมเล็ก ๆ ภายในปอด (alveoli) อาจยุบตัว การถอนหายใจลึกจะช่วยขยายปอดและเปิดถุงลมเหล่านั้นให้กลับมาทำงานตามปกติ
งานวิจัยในปี 2022 ยังพบว่า การหายใจออกยาวมักเชื่อมโยงกับอารมณ์ด้านลบ เช่น ความกลัว ความวิตกกังวล หรือความเศร้า แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยระบายความตึงเครียดเหล่านั้นออกจากร่างกายได้ด้วย
แต่อย่าถอนหายใจ “มากเกินไป”
แม้การถอนหายใจจะช่วยคลายเครียด แต่หากทำบ่อยเกินไปอาจเป็นสัญญาณของความวิตกกังวลเรื้อรัง การฝึกหายใจเข้าออกลึก ๆ อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบหายใจทำงานดีขึ้น และช่วยให้ร่างกายจัดการกับความเครียดได้อย่างสมดุล