ที่นี่มีคำตอบ: ทำไมเราไม่ค่อยฝันถึง "โทรศัพท์มือถือ" ทั้งที่มันอยู่กับเราตลอดเวลา?
เคยสังเกตไหมว่า แม้โทรศัพท์มือถือจะอยู่ติดตัวเราทั้งวัน แต่กลับแทบไม่เคยปรากฏในความฝันเลย?
เว็บไวต์ thecut รายงานว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งตั้งข้อสังเกตไว้อย่างน่าสนใจว่า “ถึงจะใช้สมาร์ทโฟนทุกวัน แต่ผมไม่เคยเห็นมันในฝันเลยสักครั้ง” ข้อความนั้นได้รับการกดถูกใจกว่า 5 หมื่นครั้ง เพราะดูเหมือนหลายคนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
โทรศัพท์ที่เราใช้แทบตลอดเวลาในชีวิตประจำวัน กลับหายไปจากโลกของความฝันอย่างน่าประหลาด?
เรามักจะใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่กับหน้าจอ ทั้งอ่านข่าว แชต เล่นเกม หรือดูคลิป แต่เมื่อหลับตาลง โลกแห่งความฝันกลับเต็มไปด้วยภาพเหนือจริง เช่น เครื่องบินเหล็กปีกย่น บ้านลอยฟ้า หรือการหนีสัตว์ประหลาด มากกว่าจะเป็นภาพของเราเลื่อนโทรศัพท์ในมือ

โทรศัพท์แทบไม่เคยปรากฏในความฝันของเรา
ผลการวิจัยเกี่ยวกับความฝันมากกว่า 16,000 รายงาน พบว่า โทรศัพท์มือถือปรากฏในความฝันของผู้หญิงเพียงราว 3.5% และในผู้ชายเพียง 2.7% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น เช่น รถยนต์ เครื่องบิน หรือแม้แต่ลิฟต์ ที่มักจะโผล่มาในความฝันอยู่บ่อยครั้ง
ดร.เคลลี บัลเคลีย์ (Kelly Bulkeley) นักจิตวิทยาและนักวิจัยด้านความฝัน อธิบายว่า “เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในโลกแห่งความฝัน” เขาพบว่า เทคโนโลยีการขนส่ง มีอิทธิพลในความฝันของผู้คนมากกว่า เทคโนโลยีการสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์
สาเหตุหนึ่งที่เป็นไปได้ คือ เทคโนโลยีด้านการขนส่งส่งผลโดยตรงต่อร่างกายและประสาทสัมผัสของมนุษย์มากกว่า เรารู้สึกถึงการเคลื่อนไหว ความเร็ว เสียงเครื่องยนต์ หรือแรงเหวี่ยง ในขณะที่สมาร์ทโฟนแม้จะกินเวลาชีวิตไปมาก แต่ไม่ได้กระตุ้นประสาทสัมผัสในระดับลึกเช่นนั้น

เมื่อความฝันยังยึดโยงกับสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด
อลิซ ร็อบบ์ (Alice Robb) ผู้เขียนหนังสือ Why We Dream: The Transformative Power of Our Nightly Journey ให้คำอธิบายเพิ่มเติมผ่านทฤษฎีที่เรียกว่า “สมมติฐานการจำลองภัยคุกคาม” (Threat Simulation Hypothesis) ซึ่งระบุว่า มนุษย์ฝันขึ้นมาเพื่อจำลองสถานการณ์เสี่ยงในสภาพแวดล้อมปลอดภัย ช่วยให้เราฝึกรับมือกับความกลัวและความวิตกกังวลได้โดยไม่ต้องเผชิญจริง
ดังนั้น ในเชิงวิวัฒนาการ ความฝันจึงมักเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ช่วยให้ “อยู่รอด” เช่น การต่อสู้ การหนีภัย หรือการเอาชนะอุปสรรค มากกว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตยุคดิจิทัล เช่น การอ่านข้อความหรือเลื่อนฟีดโทรศัพท์
ร็อบบ์ ยังชี้ว่า คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยฝันถึงกิจกรรมอย่าง “การอ่าน” หรือ “การเขียน” ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานในประวัติศาสตร์มนุษย์ ความฝันของเราจึงยังคงยึดโยงกับกลไกดั้งเดิมของสมองมากกว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่

โทรศัพท์ในฝันมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาพิเศษ
แม้โทรศัพท์จะไม่ใช่ตัวละครหลักในโลกของความฝัน แต่ก็มีบางกรณีที่มันปรากฏขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้ฝันกำลังอยู่ในภาวะเศร้าโศกหรือสูญเสีย
ร็อบบ์ อธิบายว่า “หลายคนมักฝันเห็นคนที่จากไปโทรกลับมาหา” ซึ่งสะท้อนบทบาทของโทรศัพท์ในฐานะเครื่องมือสื่อสารระหว่าง “โลกนี้” และ “โลกแห่งจิตใจ”

บทสรุป: โทรศัพท์อาจแค่ยังไม่สำคัญพอในโลกแห่งความฝัน
ดร.บัลเคลลีย์ สรุปไว้ว่า เทคโนโลยีที่ปรากฏบ่อยที่สุดในความฝัน มักเป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างมานานแล้ว อย่างรถยนต์ ซึ่งอยู่กับมนุษย์มากว่าศตวรรษ และมีผลกระทบโดยตรงต่อประสบการณ์ทางกาย เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่เพิ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา
บางทีโทรศัพท์อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ก่อนที่มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึกได้อย่างสมบูรณ์ และหากคุณเริ่มคิดถึงมันมากพอ อาจมีสักคืนที่ความฝันของคุณเต็มไปด้วยภาพการพิมพ์ข้อความบนหน้าจอ ซึ่งเชื่อเถอะว่า ไม่ได้สนุกเท่าการฝันว่าคุณกำลังบินอยู่บนฟ้าแน่นอน