ไม่ใช่อัลมอนด์! ถั่วชนิดไหน ดีต่อสุขภาพที่สุด? คำตอบอาจทำให้หลายคนแปลกใจ
"ถั่ว" ชนิดไหนดีต่อสุขภาพที่สุด? คำตอบอาจทำให้คุณทึ่ง ถั่วที่นักโภชนาการยกให้เป็น “ราชาแห่งถั่ว”
เมื่อพูดถึงถั่ว หลายคนอาจนึกถึง “อัลมอนด์” เพราะเป็นถั่วยอดนิยมในสหรัฐอเมริกา โดยชาวอเมริกันบริโภคอัลมอนด์เฉลี่ยปีละกว่า 2 ปอนด์ เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากทศวรรษ 1970 ที่บริโภคเพียงไม่ถึงครึ่งปอนด์ต่อปี
ไม่แปลกที่อัลมอนด์จะได้รับความนิยม เพราะงานวิจัยพบว่ามันช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันรอบเอว และยังส่งเสริมสุขภาพลำไส้ด้วยการเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดี
แต่คำถามคือ อัลมอนด์คือ “ถั่วที่ดีที่สุด” จริงหรือ? นักโภชนาการและเชฟชาวอเมริกัน นิโคเล็ต เพซ (Nicolette Pace) ได้จัดอันดับ “ถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด” และผลลัพธ์อาจทำให้คุณแปลกใจ

5 อันดับถั่วที่ดีต่อสุขภาพที่สุด
อันดับ 5: ถั่วลิสง
แม้จะเรียกว่า “ถั่ว” แต่จริง ๆ แล้วถั่วลิสงอยู่ในตระกูลพืชตระกูลถั่ว (Legume) เช่นเดียวกับถั่วเหลืองและถั่วลันเตา อย่างไรก็ตาม ถั่วลิสงให้คุณประโยชน์ไม่แพ้ถั่วเปลือกแข็งทั่วไป ทั้งช่วยปรับสมดุลไขมันดี–ไขมันเลว และเพิ่มพลังงานได้ยาวนาน
นอกจากนี้ยังมีสารไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogens) ซึ่งเลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือน
อันดับ 4: เม็ดมะม่วงหิมพานต์
อุดมด้วยวิตามินอี ธาตุเหล็ก สังกะสี และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท ลดความเสื่อมของเซลล์สมองและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งยังมีแมกนีเซียมและสังกะสีที่ช่วยเสริมฮอร์โมนและสุขภาพระบบสืบพันธุ์ของผู้ชาย
อันดับ 3: อัลมอนด์
ถึงจะเป็นถั่วขวัญใจชาวอเมริกัน แต่อัลมอนด์มาในอันดับ 3 เท่านั้น เพราะแม้จะมีแคลเซียม วิตามินอี โปรตีน และไฟเบอร์สูง แต่ยังมีคู่แข่งที่ให้สารอาหารเฉพาะทางมากกว่า
จุดเด่นของอัลมอนด์คือช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดโดยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้ เพิ่มจุลินทรีย์ดี และช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น นอกจากนี้แคลเซียมยังช่วยให้ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนรักษาความหนาแน่นของกระดูก ส่วนแมกนีเซียมและสังกะสีช่วยเสริมพลังและความแข็งแรงให้ผู้ชาย
อันดับ 2: พิสตาชิโอ
พิสตาชิโอถือเป็น “โปรตีนจากพืชที่สมบูรณ์” เพราะมีกรดอะมิโนจำเป็นครบทั้ง 9 ชนิด แถมยังอุดมด้วยโพแทสเซียม ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ
ถั่วชนิดนี้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยย่อยอาหาร และเสริมการทำงานของสมองผ่านการปรับสมดุลสารสื่อประสาท จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2

อันดับ 1: วอลนัต
วอลนัต คือถั่วที่นักโภชนาการยกให้เป็น “ราชาแห่งถั่ว” เพราะอุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ชนิดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) สารไฟโตสเตอรอล และโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยลดการอักเสบและป้องกันโรคหัวใจ
วอลนัตยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดไตรกลีเซอไรด์ และลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือด อีกทั้งยังมีวิตามินอี สังกะสี แมกนีเซียม และซีลีเนียม ที่ช่วยบำรุงคุณภาพอสุจิ และส่งเสริมการทำงานของสมอง ความจำ และกระดูก
ข้อแนะนำ: กิน "ถั่ว" อย่างไรให้พอดี
แม้จะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไป เพซแนะนำให้บริโภคประมาณ 1 ถึง 1.5 ออนซ์ต่อวัน (ประมาณ 150-200 แคลอรี) เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุด
เธอยังแนะนำให้สร้างสมดุลในการบริโภคถั่วกับทางเลือกอื่นๆ ที่มีประโยชน์เช่นกัน เช่น เมล็ดฟักทอง ทานตะวัน แฟลกซ์ และงา รวมถึงพืชตระกูลถั่วอย่าง ถั่วชิกพี ถั่วเลนทิล และถั่วเหลือง