คนไทยกินครบ! แพทย์เตือน 4 อาหารอร่อย "เปิดทางมะเร็ง" พบผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง
มะเร็งกำลังระบาดหนัก? คุณหมอแนะอย่ากิน 4 อาหารนี้มากเกินไป อร่อยแค่ไหนก็ต้องลด-ละ-เลิก
อุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลายเป็นข้อกังวลทั่วไปของหลายครอบครัว นอกจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่าอาหารประจำวันมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการพัฒนาของโรคนี้
หลายคนคิดว่าตัวเองกินง่าย ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แล้วทำไมถึงยังเป็นมะเร็งอยู่ล่ะ? ตามรายงานของเว็บไซต์ SOHA อ้างอิงข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ปัญหามักเกิดจากจานอาหารที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่ปรากฏซ้ำๆ บนโต๊ะอาหารทุกวัน
1. อาหารทอด
ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ และโดนัท เป็นอาหารโปรดของใครหลายคน อย่างไรก็ตาม เมื่อนำอาหารไปปรุงในน้ำมันที่อุณหภูมิสูง จะก่อให้เกิดสารอันตรายมากมาย เช่น อะคริลาไมด์ ซึ่งเป็นสารประกอบที่ถูกจัดว่าเป็นสารก่อมะเร็ง
การศึกษาในอเมริกาเหนือและยุโรปแสดงให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานอาหารทอดมากกว่า 50 กรัมต่อวันมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งทางเดินอาหารสูงกว่าผู้ที่จำกัดอาหารกลุ่มนี้ถึง 20-25% นอกจากนี้ อาหารทอดยังมีไขมันเลวและพลังงานสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้ง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ร่างกายยังคงสามารถปรับตัวได้หากรับประทานเป็นครั้งคราว แต่หากรับประทานเป็นอาหารว่างทุกวัน ร่างกายจะ “รับภาระมากเกินไป” ได้อย่างรวดเร็ว
2. เนื้อสัตว์แปรรูป
ไส้กรอก เบคอน และแฮม ล้วนมีไนไตรต์ สารกันบูด และเกลือในปริมาณสูง ส่วนผสมเหล่านี้ทำปฏิกิริยาได้ง่ายจนเกิดไนโตรซามีน ซึ่งเป็นกลุ่มสารที่พบว่าเชื่อมโยงโดยตรงกับโรคมะเร็ง
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์แปรรูปมากกว่า 500 กรัมต่อสัปดาห์มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเพิ่มขึ้น 30% ความเสี่ยงนี้เกิดจากการสะสมในระยะยาว กล่าวคือ การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปเพียงเล็กน้อยในแต่ละสัปดาห์ หรือเพิ่มปริมาณอาหารอีกเล็กน้อยในแต่ละเดือน จะทำให้เซลล์ได้รับสารอันตรายอย่างต่อเนื่อง
3. เครื่องดื่มและขนมอบที่มีน้ำตาล
น้ำตาลไม่ใช่สารก่อมะเร็ง แต่การบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่โรคอ้วน ภาวะดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้น และการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับมะเร็งหลายประเภท
การศึกษาทางระบาดวิทยาทั่วโลกพบว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลวันละหนึ่งแก้วมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนเพิ่มขึ้น 15-20% นอกจากนี้ อาหารที่มีน้ำตาลสูงยังรบกวนจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลให้เกิดการอักเสบ
ดังนั้นหากดื่มชานม น้ำอัดลม หรือเค้กเป็นประจำทุกวัน ร่างกายจะได้รับผลกระทบสะสมในระยะยาว
4. เนื้อแดงและเนื้อย่าง
เนื้อวัว เนื้อแกะ หรือเนื้อหมู ให้โปรตีนและธาตุเหล็ก แต่การรับประทานมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อย่างหรือทอดในกระทะด้วยไฟแรง อาจทำให้เกิดสารต่างๆ เช่น โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) และ เฮเทอโรไซคลิกเอมีน (HCAs) สารเหล่านี้เป็นอันตรายต่อดีเอ็นเอ ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้เตือนไว้
ผู้ที่บริโภคเนื้อแดงมากกว่า 100 กรัมต่อวันมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเพิ่มขึ้น 17-20% ยิ่งย่างเนื้อบนเปลวไฟโดยตรง ความเสี่ยงก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
การรับประทานอาหารค่ำที่ล่าช้า เช่น เนื้อย่าง ไม้เสียบ ฯลฯ หากรับประทานเป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายได้รับภาระหนัก
- ผลไม้ราคาถูก "กวาด" ไขมันในเลือดดีเยี่ยม ญี่ปุ่นยกเป็น "โสมเขียว" ไทยมีตามตลาดทั่วไป!
- รู้หรือไม่? ใบที่ถูกเรียกว่า "โสมคนจน" บำรุงตับไต-ลดผมร่วง แต่คนมักกินแค่เมล็ด ทิ้งของดีไป!
ไม่เพียงแต่เฉพาะอาหารเท่านั้น วิธีการปรุงยังกำหนดความเสี่ยงอีกด้วย
ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้นเท่าไหร่ อาหารก็ยิ่งมีโอกาสสร้างสารพิษมากขึ้นเท่านั้น การทอด การทอด การรมควัน หรือการย่างโดยตรง ล้วนเพิ่มปริมาณสารประกอบที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ พฤติกรรมการรับประทานอาหารร่วมกัน เช่น "ไก่ทอดกับน้ำอัดลม" หรือ "ข้าวผัดเบคอน" ยังทำให้ร่างกายต้องเผาผลาญน้ำตาล ไขมัน และเกลือในปริมาณสูงในเวลาเดียวกัน
ในระยะยาว สิ่งนี้จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการอักเสบเรื้อรังและการก่อตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ
