คนจีนเรียกว่า "ผักอายุยืน" แต่กลับถูกมองข้าม คนไทยมองเป็นวัชพืช มักโดนถอนทิ้ง
คนจีนเรียกว่า "ผักอายุยืน" แต่คนไทยมองข้าม มักถอนทิ้ง ทั้งที่ประโยชน์สูง
ในประเทศไทย ตามพื้นที่ว่างเปล่า ริมถนน หรือคันนา เรามักจะพบเห็นพืชขนาดเล็กที่มีลำต้นอวบน้ำสีชมพูแดง เลื้อยไปตามพื้นดิน พืชชนิดนั้นคือ "ผักเบี้ยใหญ่" (Purslane) นั่นเอง
ผักเบี้ยใหญ่เป็นพืชที่เติบโตง่ายและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ในหลายพื้นที่ เมื่อมันเติบโตอย่างหนาแน่น คนไทยส่วนใหญ่มักมองเป็นวัชพืชและถอนทิ้งไป แต่เบื้องหลังรูปลักษณ์ที่ดูธรรมดานี้ น้อยคนที่จะรู้ว่ามันคือผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

ผักล้ำค่าที่ถูกมองข้าม
ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่มองข้าม ในประเทศจีน ผักเบี้ยใหญ่กลับถูกเรียกว่า "ผักอายุยืน" และถูกใช้เป็นยาอันล้ำค่าในการแพทย์พื้นบ้าน ส่วนในหลายประเทศในยุโรป ผักชนิดนี้กลับมีวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต
ชาวดัตช์นิยมนำไปดอง ในขณะที่ชาวฝรั่งเศสใช้ประกอบอาหารจำพวกสลัดหรือสตูว์ และในสหรัฐอเมริกา ผักเบี้ยใหญ่ก็ถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมยอดนิยมในสลัดเช่นกัน
ผักเบี้ยใหญ่มีประโยชน์อย่างไร
ตามรายงานของนิตยสาร Health งานวิจัยระหว่างประเทศหลายชิ้นชี้ว่า ผักเบี้ยใหญ่มีสารอาหารมากกว่าผักใบเขียวทั่วไปหลายชนิด จุดเด่นที่สุดคือ อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3
ผักเบี้ยใหญ่เป็นหนึ่งในพืชไม่กี่ชนิดที่มีกรด EPA ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยวิตามิน A, C, วิตามินบีรวม, แคโรทีนอยด์ และแร่ธาตุ เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก
ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง ผักเบี้ยใหญ่จึงถูกศึกษาในแง่ของการลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นปัจจัยเกี่ยวข้องกับความชราและโรคเรื้อรังหลายชนิด
มีบางการทดลองที่บันทึกไว้ว่า ผักเบี้ยใหญ่สามารถช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ลดอินซูลิน และปรับปรุงไขมันในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 ได้อีกด้วย

เมนูจากผักเบี้ยใหญ่ในแบบไทย
ในประเทศไทย ผักเบี้ยใหญ่อาจพบเห็นได้บ้างตามตลาดพื้นบ้าน หรือในชุมชนชนบท โดยคนไทยมักนำไปประกอบอาหารแบบเรียบง่าย แต่ได้ประโยชน์
เมนูที่นิยมที่สุดคือการนำไป "ลวก" หรือ "นึ่ง" แล้วรับประทานคู่กับน้ำพริก หรือนำไปใส่ในแกงส้ม แกงเลียง เพื่อเพิ่มรสชาติเปรี้ยวอมและเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบ นอกจากนี้ บางคนยังนำยอดอ่อนไปรับประทานเป็นผักสดแกล้มกับลาบหรือน้ำตก
ด้วยคุณลักษณะที่อวบน้ำ มีความกรอบเล็กน้อย และรสเปรี้ยวที่เป็นธรรมชาติ ผักเบี้ยใหญ่จึงสามารถเป็นส่วนประกอบที่ช่วยชูรสชาติในเมนูฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี ช่วยดับร้อน และสนับสนุนระบบย่อยอาหาร