เนื้อหาในหมวด ข่าว

รูปร่างแบบไหนเสี่ยง \

รูปร่างแบบไหนเสี่ยง "ไขมันในเลือดสูง" ภัยเงียบที่หลายคนเข้าใจผิด

รูปร่างแบบไหนเสี่ยง "ไขมันในเลือดสูง" ภัยเงียบที่หลายคนเข้าใจผิด

ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นภัยเงียบที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเกิดขึ้นเฉพาะกับคนที่มีรูปร่างท้วมหรือมีน้ำหนักตัวมากเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว รูปร่างภายนอกไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ทั้งหมด เพราะไขมันที่ละลายอยู่ในกระแสเลือดนั้นแตกต่างจากไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังที่มองเห็นได้ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างผอมหรืออ้วน ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นภาวะนี้ได้เท่ากันหมด

รูปร่างแบบไหนที่เสี่ยง "ไขมันในเลือดสูง" มากที่สุด?

รูปร่างที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อภาวะไขมันในเลือดสูงมากที่สุด คือรูปร่างที่แสดงถึงการมีไขมันสะสมอยู่ภายในช่องท้อง ซึ่งมีอันตรายมากกว่าไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังทั่วไป แพทย์จึงมีการจัดกลุ่มรูปร่างที่มีความเสี่ยงสูงไว้ดังนี้

กลุ่มเสี่ยงอันดับหนึ่ง : รูปร่างแบบ "ลงพุง" (Central Obesity)

รูปร่างแบบลงพุง หรือมีลักษณะที่เรียกว่า Apple shape ถือเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะแสดงว่ามี ไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) สะสมอยู่มาก ไขมันชนิดนี้เป็นไขมันที่อยู่ลึก ห่อหุ้มอวัยวะภายใน ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเพิ่มระดับไขมันเลว (LDL) และไตรกลีเซอไรด์

ผู้ที่มีรูปร่างลงพุงจึงเป็นกลุ่มเสี่ยงอันดับแรกที่ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ แม้ภายนอกจะดูไม่อ้วนมาก แต่หากมี "พุงแข็ง" และกดไม่ยุบ ก็เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะ ไขมันในเลือดสูง ที่สูงมากที่สุด

คนผอมก็เสี่ยง : ภาวะ Thin Outside Fat Inside (TOFI)

อีกหนึ่งกลุ่มที่ต้องระวังคือกลุ่ม TOFI หรือที่เรียกกันว่า “ผอมแต่มีไขมันสูง” ซึ่งเป็นภาวะที่คนภายนอกดูผอมหรือมีรูปร่างปกติ แต่ภายในกลับมีไขมันสะสมแทรกอยู่ในอวัยวะ เช่น ภาวะไขมันพอกตับ กลุ่มนี้มักไม่รู้ตัวและอาจไม่เคยตรวจสุขภาพ จึงมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่เฉียบพลันได้ไม่ต่างจากคนอ้วน

ภาวะนี้มักเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง แป้งขัดสี หรือของทอดมากเกินไป รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย การนอนน้อย และความเครียดสะสม ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อระดับ ไขมันในเลือดสูง ได้ แม้ว่าน้ำหนักตัวจะไม่เกินเกณฑ์ก็ตาม

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะ ไขมันในเลือดสูง

นอกเหนือจากเรื่องรูปร่างภายนอกแล้ว สาเหตุหลักของการมี ไขมันในเลือดสูง มักมาจากหลายปัจจัยร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและพันธุกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสนใจ:  

  • พฤติกรรมการบริโภคอาหาร: การทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์สูง รวมถึงอาหารที่มีน้ำตาลและแป้งขัดขาวมากเกินไป จะส่งผลให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น
  •   
  • พันธุกรรม: หากคนในครอบครัวมีประวัติภาวะไขมันในเลือดสูง ลูกหลานก็จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นภาวะนี้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า
  •   
  • การขาดการออกกำลังกาย: การใช้ชีวิตแบบเนือยนิ่ง ทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร และเกิดการสะสมของไขมันในกระแสเลือดได้ง่าย
  •   
  • ภาวะสุขภาพอื่น ๆ: โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยกว่าปกติ ก็เป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดภาวะนี้ได้

วิธีประเมินความเสี่ยง "ไขมันในเลือดสูง" ด้วยตัวเอง

เพื่อให้ทราบว่าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ สามารถประเมินเบื้องต้นได้จากสัญญาณเตือนง่าย ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับน้ำหนักตัวโดยรวม โดยให้ตรวจสอบ 3 ข้อหลักนี้:  

  • วัดรอบเอว (Waist Circumference): สำหรับผู้หญิง หากวัดรอบเอวได้เกิน 80 เซนติเมตร หรือผู้ชายเกิน 90 เซนติเมตร ถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการมีไขมันช่องท้องสูง
  •   
  • ลักษณะของพุง: หากมีลักษณะ "พุงแข็ง" หรือกดไม่ยุบ หมายถึงการสะสมของไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งเป็นไขมันอันตรายที่เพิ่มความเสี่ยงสูง
  •   
  • ประวัติครอบครัว: หากมีพ่อแม่หรือญาติสายตรงมีประวัติภาวะ ไขมันในเลือดสูง จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
  • สรุป: ไขมันในเลือดสูง ภัยเงียบที่ต้องใส่ใจ

    โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบใดก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเช็กระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์อย่างสม่ำเสมอ

    สาวอายุ 27 \

    สาวอายุ 27 "เลือดเปลี่ยนสี" ขาวขุ่นเหมือนนม แพทย์ชี้สาเหตุช็อก เครื่องดื่มใกล้ตัวสุดๆ

    ผู้หญิง 27 ปี มีเลือดขาวขุ่นเหมือนนม สาเหตุจากเครื่องดื่มยอดนิยม บริโภคมากเสี่ยงตับอ่อนอักเสบ