เนื้อหาในหมวด ข่าว

2 เมนู \

2 เมนู "ปลามรณะ" ทำลายเซลล์ตับ เสี่ยงมะเร็งร้ายแรง ไม่ใช่แค่ปลาเผา อีกอย่างก็ร้าย!

2 เมนูปลา ทำลายเนื้อเยื่อตับอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดมะเร็ง ชนิดที่แม้แต่พ่อค้ายังไม่กินเยอะ!

งานวิจัยหลายชิ้นได้ชี้ให้เห็นว่า ปลา 2 ชนิดนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อสุขภาพ ดังนั้นประชาชนจึงควรจำกัดการบริโภค

ปลาเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยและอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้บริโภคเพิ่มขึ้นเพื่อเสริมสารอาหารให้ร่างกาย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ปลาทุกชนิดที่จะดีต่อสุขภาพเสมอไป ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพชั้นนำระบุว่า ปลาบางชนิดมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อมะเร็ง ผู้บริโภคจึงควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเพื่อปกป้องสุขภาพของตนเอง

1. ปลาเค็ม

ปลาเค็มเป็นอาหารยอดนิยมในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ปลาชนิดนี้คือปลาสดที่นำไปหมักกับเกลือจำนวนมากแล้วตากแห้ง เพื่อให้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน ปลาเค็มมีรสชาติเข้มข้น อร่อย มีราคาถูก และสะดวกสบาย จึงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนและถูกนำมารับประทานทุกวัน ทว่าน้อยคนนักที่จะตระหนักถึงอันตรายต่อสุขภาพที่มันก่อขึ้น

  • สารก่อมะเร็ง: ปลาเค็มมีปริมาณเกลือสูงมาก การบริโภคเป็นประจำจึงไม่ดีต่อสุขภาพหลอดเลือด นอกจากนี้ อาหารหมักเกลือยังอุดมไปด้วยสาร ไนไตรต์ (Nitrite) ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทำปฏิกิริยาและสร้างสาร ไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่มีฤทธิ์รุนแรง สามารถทำลายตับได้อย่างร้ายแรง และไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของตับเลย

  • งานวิจัยยืนยัน: ในปี 2017 องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (IARC) ภายใต้องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้ ปลาเค็ม อยู่ในบัญชีอาหารที่ ก่อมะเร็งระดับ 1 (Group 1 Carcinogen) ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนบางคนกล่าวว่า การรับประทานปลาเค็มแบบจีนเพียง 1 กิโลกรัม มีพิษเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 250 มวน นอกจากนี้ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นยังแสดงให้เห็นว่า เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีที่รับประทานปลาเค็มเป็นประจำ มีความเสี่ยงที่จะเป็น มะเร็งหลังโพรงจมูก เมื่อโตขึ้นสูงกว่าคนทั่วไป

หมายเหตุ: ในมุมมองทางการแพทย์ มะเร็งเป็นโรคที่มีความซับซ้อน การสัมผัสกับสารก่อมะเร็งหรือการบริโภคอาหารก่อมะเร็งเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเท่านั้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อายุ พันธุกรรม ภูมิคุ้มกัน โรคเรื้อรัง ฯลฯ ก็มีบทบาทในการพัฒนามะเร็งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยอันตรายที่ปลาเค็มมีต่อสุขภาพ การหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

2. ปลาเผา

ปลาปิ้งย่างและอาหารปิ้งย่างอื่นๆ ล้วนให้รสชาติที่น่าดึงดูดและหอมอร่อย แต่เป็นอาหารที่มีความเสี่ยงสูงในการก่อโรค ปลาปิ้งย่างเป็นอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน ทว่าเมื่อโปรตีนสัมผัสกับความร้อนสูงในระหว่างการย่าง จะเกิดการสร้างสาร อะโรมาติกเอมีน (Aromatic Amines) และสารเคมีที่เป็นพิษอื่นๆ ที่สามารถก่อมะเร็งได้

  • สารก่อมะเร็งในการย่าง: องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การย่างอาหารได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถผลิตสาร อะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารพิษที่ WHO จัดอยู่ในกลุ่ม 2A หรือกลุ่ม "อาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์"

  • ผลกระทบต่อร่างกาย: นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งแล้ว สารพิษอะคริลาไมด์ยังส่งผลกระทบในเชิงลบต่อระบบประสาทและระบบสืบพันธุ์อีกด้วย ดังนั้น จึงควรจำกัดการบริโภคอาหารประเภทนี้ให้มากที่สุด

  3 ข้อควรจำเมื่อรับประทานปลา เพื่อสุขภาพที่ดีในทุกวัน

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำ 3 สิ่งที่ผู้บริโภคควรจำไว้ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากปลา:

  • เลือกแหล่งที่มาของปลาที่น่าเชื่อถือ: การเลือกซื้อปลาจากผู้จำหน่ายที่ไว้วางใจได้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าปลาจะสดใหม่ แต่ยังช่วยจำกัดความเสี่ยงของการเป็นพิษจากแบคทีเรียหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายด้วย ควรเลือกซื้อปลาจากร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีใบรับรองสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาหาร

  • ปรุงปลาอย่างถูกวิธี: เพื่อให้ได้รับคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดและปลอดภัย ปลาจะต้องถูกปรุงให้สุกอย่างสมบูรณ์ ความร้อนสูงในระหว่างการปรุงอาหารจะทำลายแบคทีเรีย ปรสิต และเชื้อโรคต่างๆ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาประโยชน์ของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อหัวใจและสมองไว้ได้

  • รับประทานอาหารอื่นร่วมด้วยเพื่อความสมดุล: มื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพไม่ได้มีแค่ปลา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานปลาร่วมกับ ผักใบเขียว ธัญพืชเต็มเมล็ด และ ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก หรือวอลนัท การผสมผสานนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่ครบถ้วน พร้อมทั้งรักษาสมดุลของพลังงานและเสริมสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง

  • โดยสรุปแล้ว แม้ปลาจะเป็นแหล่งสารอาหารชั้นเยี่ยม แต่เพื่อปกป้องสุขภาพตับและลดความเสี่ยงมะเร็งร้ายแรงในระยะยาว เราควรพิจารณาจำกัดการบริโภค ปลาเค็ม และ ปลาปิ้งย่าง เนื่องจากมีสารก่อมะเร็งที่เกิดจากกระบวนการผลิตและความร้อนสูง อย่างไรก็ตาม การหลีกเลี่ยงไม่ได้แปลว่าต้องเลิกกินปลาไปเลย กุญแจสำคัญคือการเลือกแหล่งปลาที่สะอาดและปรุงอาหารด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การนึ่ง ต้ม หรืออบ ควบคู่ไปกับการรับประทานผักและธัญพืชเต็มเมล็ดอย่างสมดุล เพื่อให้ร่างกายได้รับโอเมก้า 3 ครบถ้วนและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีอย่างยั่งยืน

    เตือนภัย 5 อาหารเช้า \

    เตือนภัย 5 อาหารเช้า "ป้อนพลัง" ให้เซลล์มะเร็งโตขึ้น เผลอเลี้ยงมันอย่างเงียบๆ ไม่ทันรู้ตัว!

    เตือนแล้วนะ 5 อาหารเช้า “สูบฉีดสารอาหาร” เข้าสู่เซลล์มะเร็งอย่างเงียบๆ อันตรายไม่รู้ตัว!