ไม่ต้องแพง! ซูเปอร์ฟู้ดไทยบ้านๆ ของดีราคาถูก หมอแนะนำ ลดอักเสบ-คุมไขมัน ได้จริง
7 ซูเปอร์ฟู้ดไทยที่หมอแนะนำ ไม่ต้องแพง ของดีใกล้ตัว ในไทยมีเยอะ ดูแลลดอักเสบ-คุมไขมันได้จริง
นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์แนะว่า ซูเปอร์ฟู้ดไทย หลายชนิดที่อยู่ในครัวบ้านเราให้ประโยชน์ต่อร่างกายเทียบเท่าหรือดีกว่าอาหารนำเข้าในแง่การลดอักเสบ ควบคุมไขมัน และเสริมภูมิคุ้มกันได้จริง ผู้เชี่ยวชาญเน้นว่าคีย์สำคัญคือวิธีกินและปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่การกินแบบสุ่มหรือมากเกินไป มาดูกันว่า 7 รายการที่หมอแนะนำ พร้อมปริมาณการบริโภคและข้อควรระวังที่คนทั่วไปทำตามได้ง่าย มีอะไรบ้าง...
โดย นายแพทย์เจษฎ์ แนะนำว่า “ของดีจริงอยู่ในครัวไทย ใครต้องการอาหารช่วยลดอักเสบ คุมไขมัน เสริมภูมิ และดูแลระบบขับถ่าย ลองเริ่มจากของพื้นบ้านก่อน”
1. มะเขือพวง — ไฟเบอร์สูง ดักจับไขมัน
มะเขือพวงเป็นผักท้องถิ่นที่มีเส้นใยสูง ช่วยเพิ่มกากอาหารในลำไส้และดักจับไขมันบางส่วนก่อนดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย. สำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาไขมันหรือความดัน การกินมะเขือพวงเป็นผักแนมช่วยลดปริมาณของทอดและแป้งได้ดี. แนะนำกินแบบลวกหรือต้มวันละประมาณ ¼–½ ถ้วยเพื่อให้ได้รับไฟเบอร์โดยไม่ระคายคอ ควรหลีกเลี่ยงการกินดิบเพราะอาจย่อยยากและทำให้ระคายคอได้

2. กระชายดำ — กระตุ้นพลังและการไหลเวียนเลือด
กระชายดำได้รับการพูดถึงในแง่เพิ่มพลังและช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น สารออกฤทธิ์บางชนิดยังมีผลลดอาการอักเสบเล็กน้อย. เหมาะกับผู้ที่รู้สึกเหนื่อยง่ายหรือปวดเมื่อยเรื้อรังเมื่อต้องการกระตุ้นความสดชื่นตามธรรมชาติ หากใช้แบบสกัดแนะนำ 1–2 แคปซูลต่อวัน หรือถ้าใช้สดให้กิน 1–2 แง่งเป็นครั้งคราว. ผู้เป็นโรคกระเพาะควรระวังไม่กินตอนท้องว่างเพราะรสเผ็ดร้อนอาจระคายเคือง

3. ถั่วลิสงต้ม — โปรตีน-ไขมันดี คุมความหิว
ถั่วลิสงต้มเป็นของว่างราคาถูกที่ให้โปรตีน ไขมันไม่อิ่มตัว และไฟเบอร์ ช่วยความอิ่มและรักษาระดับน้ำตาลไม่ให้พุ่งเร็ว เหมาะสำหรับผู้คุมน้ำหนักหรือผู้ทำ IF. ปริมาณที่แนะนำคือวันละประมาณ 1 กำมือเพื่อได้ประโยชน์โดยไม่เพิ่มพลังงานเกิน. ควรเลือกถั่วสดใหม่และไม่มีกลิ่นอับเพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อราที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพตับ.
4. กล้วยน้ำว้า — พรีไบโอติกช่วยระบบขับถ่าย
กล้วยน้ำว้ามีทั้งไฟเบอร์และพรีไบโอติกที่เลี้ยงแบคทีเรียดีในลำไส้ ช่วยการขับถ่ายและทำให้รู้สึกอิ่มนาน เหมาะสำหรับคนที่อยากลดขนมหวานและปรับระบบย่อย. แนะนำกินวันละ 1 ลูก เพื่อไม่ให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไปในคราวเดียว. ผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลควรกินหลังอาหารแทนการกินขณะท้องว่าง.
5. มะขามป้อม — วิตามินซีสูง เสริมภูมิคุ้มกัน
มะขามป้อมมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้นเมื่อรับประทานเป็นประจำ. ปริมาณที่แนะนำคือสด 1–2 ผลต่อวันหรือชงเป็นน้ำดื่ม 1 แก้ว. ระวังการกินมากเกินไปเพราะผลมีรสฝาด อาจทำให้ท้องผูกในบางคน

6. ไข่ผำ — โปรตีนจากพืช ย่อยง่าย
ไข่ผำเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่ายและให้กรดอะมิโนที่ดีต่อการสร้างกล้ามเนื้อเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มโปรตีนโดยไม่เพิ่มคอเลสเตอรอลสูง. แนะนำใช้เป็นส่วนผสมในแกงจืด ผัด หรือโรยอาหารในปริมาณวันละ 2–3 ช้อนโต๊ะ. ควรเลือกซื้อจากแหล่งสะอาดและหลีกเลี่ยงแหล่งที่เสี่ยงปนเปื้อนโลหะหนัก

7. งาดำ — แคลเซียมและสารเซซามินบำรุงกระดูก
งาดำมีแคลเซียมสูงและสารเซซามินที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบ ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ รวมทั้งช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลได้ดีเมื่อบริโภคเป็นประจำ. วิธีกินที่ได้ผลคือใช้งาคั่วบดวันละ 1–2 ช้อนโต๊ะโรยอาหารหรือผสมน้ำอุ่นดื่ม. ผู้เป็นโรคไตควรระมัดระวังเพราะงามีโพแทสเซียมค่อนข้างสูง และควรใช้แบบคั่วบดเท่านั้นเพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด.
สรุป
สรุปว่า ซูเปอร์ฟู้ดไทย หลายชนิดไม่จำเป็นต้องแพงหรือหายาก เพียงเลือกชนิดที่เหมาะกับเป้าหมายสุขภาพและกินในปริมาณที่พอเหมาะก็ช่วยลดอักเสบ ควบคุมไขมัน และเสริมภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรับเมนูประจำวันโดยเพิ่มมะเขือพวง ถั่วต้ม งาดำ หรือมะขามป้อมทีละน้อยจะเห็นผลในระยะยาวมากกว่าการทุ่มซื้อผลิตภัณฑ์ราคาแพง หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาประจำ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนปรับอาหาร