เนื้อหาในหมวด ข่าว

รู้ไว้ดีกว่า! เนื้ออะโวคาโดเปลี่ยนเป็น \

รู้ไว้ดีกว่า! เนื้ออะโวคาโดเปลี่ยนเป็น "สีน้ำตาล" ยังกินได้ไหม? สัญญาณว่า "เสีย" ดูตรงไหน?

อย่าเพิ่งทิ้ง! "อะโวคาโด" เนื้อเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล กินต่อได้ไหม หรือเน่าแล้ว?

อะโวคาโด จัดเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งวิตามิน K, C, E, โพแทสเซียม และวิตามินบี รวมถึงไขมันดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ปัญหาโลกแตกที่คนรักสุขภาพมักเจอคือ เมื่อผ่าอะโวคาโดทิ้งไว้สักพัก เนื้อสีเขียวสวยกลับเปลี่ยนเป็น "สีน้ำตาล" จนดูไม่น่ารับประทาน คำถามคือ เรายังกินมันได้อยู่ไหม หรือมันเน่าเสียจนต้องทิ้งแล้ว?

ทำไมเนื้ออะโวคาโดถึงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล?

ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย อธิบายว่า การที่เนื้ออะโวคาโดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีตามธรรมชาติ เมื่อเอนไซม์ในเนื้อผลไม้สัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ทำให้เกิดเม็ดสีเมลานินที่มีสีน้ำตาลขึ้น ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับที่แอปเปิลเปลี่ยนสีเมื่อปอกทิ้งไว้นั่นเอง

สรุปแล้ว "กินได้" หรือไม่?

คำตอบคือ "กินได้และไม่อันตราย" ครับ หากเนื้ออะโวคาโดเพียงแค่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลจากการสัมผัสอากาศ คุณค่าทางสารอาหารยังคงอยู่ เพียงแต่รสชาติอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเนื้อส่วนที่เป็นสีน้ำตาลอาจมีความขมติดปลายลิ้นนิดๆ และดูไม่สวยงาม

หากคุณไม่ชอบสีน้ำตาล สามารถใช้มีดขูดลอกเนื้อส่วนบนบางๆ ออกไป จนเจอเนื้อสีเขียวด้านในแล้วทานต่อได้ปกติ หรือจะนำไปบดผสมรวมกับส่วนสีเขียวเพื่อทำเป็นกัวคาโมเล่ (Guacamole) ก็ช่วยกลบรสขมและสีที่ไม่สวยได้เช่นกัน

เช็กด่วน! แบบไหนที่เรียกว่า "เสีย" จริงๆ

แม้สีน้ำตาลจากการโดนลมจะกินได้ แต่ถ้าอะโวคาโดมีลักษณะดังต่อไปนี้ คือสัญญาณว่า "เน่าเสีย" ห้ามรับประทานเด็ดขาด:

  • เนื้อนิ่มเละจนเหลว หรือมีน้ำออกมา
  • เนื้อด้านในเป็นสีดำคล้ำลึกเข้าไปถึงแกน (ไม่ใช่แค่ผิวหน้า)
  • มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือกลิ่นผิดปกติ
  • มีเชื้อราขึ้นที่เนื้อหรือเปลือก

3 เทคนิคเก็บอะโวคาโดที่ผ่าแล้ว ไม่ให้ดำง่าย

หากกินไม่หมดและต้องการเก็บไว้กินมื้อหน้า ให้ลองทำตามวิธีนี้เพื่อยืดอายุความสด:

1. บีบน้ำมะนาวเคลือบผิว

กรดซิตริกในน้ำมะนาวจะช่วยชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน เพียงบีบน้ำมะนาวบางๆ ลงบนหน้าตัดของอะโวคาโด จะช่วยคงสีเขียวสดไว้ได้นานขึ้น

2. เก็บเม็ดไว้ อย่าเพิ่งทิ้ง

หากกินแค่ครึ่งลูก ให้เก็บส่วนที่มีเมล็ดติดอยู่ไว้ เพราะเมล็ดจะช่วยปิดกั้นไม่ให้เนื้อส่วนนั้นสัมผัสกับอากาศโดยตรง ทำให้เนื้อบริเวณรอบเมล็ดไม่ดำง่าย

3. ซีลให้มิดชิด

ใช้พลาสติกแรปห่อให้แนบสนิทไปกับเนื้ออะโวคาโดเพื่อไล่อากาศออก หรือใส่กล่องสุญญากาศ แล้วนำไปแช่ตู้เย็น จะช่วยลดการสัมผัสออกซิเจนได้ดีที่สุด

สรุปแล้ว หากอะโวคาโดเปลี่ยนสีแค่ผิวๆ ยังปลอดภัยหายห่วง แต่ทางที่ดีที่สุดคือผ่าแล้วควรรีบทานให้หมด หรือเก็บรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อรสชาติที่ดีที่สุด

 

คำเตือน \

คำเตือน "อะโวคาโด" ซูเปอร์ฟู้ดที่อาจไม่เป็นมิตรกับทุกคน อันตรายที่ต้องรู้ก่อนกิน

คำเตือน "อะโวคาโด" ซูเปอร์ฟู้ดยอดฮิต แต่อาจไม่เป็นมิตรกับทุกคน อันตรายที่ต้องรู้ก่อนกิน กินแค่ไหนถึงปลอดภัย ใครควรเลี่ยง?

ผลไม้ 4 ชนิด หากมีสัญญาณเหล่านี้ ถูกแค่ไหนก็ไม่ควรซื้อ คนขายเองยังไม่กล้ากิน

ผลไม้ 4 ชนิด หากมีสัญญาณเหล่านี้ ถูกแค่ไหนก็ไม่ควรซื้อ คนขายเองยังไม่กล้ากิน

เจ้าของร้านผลไม้บอกตรง ๆ ผลไม้ 4 ชนิด หากมีสัญญาณเหล่านี้ ต่อให้ราคาถูกแค่ไหนก็ไม่ควรซื้อ เพราะแม้แต่คนขายเองยังไม่กล้ากิน

ผลไม้ 3 ชนิด ขึ้นแท่น \

ผลไม้ 3 ชนิด ขึ้นแท่น "อันดับทองคำ" ที่ตับชื่นชอบมากที่สุด ที่ไทยมีทุกอย่าง

ผลไม้ 3 ชนิด ที่ติดอันดับ "ทองคำ" ตับโปรดที่สุด ตับจะรู้สึก “ขอบคุณ” อย่างมาก หากทุกครั้งที่ไปตลาด เลือกหยิบ 3 ผลไม้เหล่านี้กลับบ้าน