$ชายแข็งแรง ไม่เหล้า-บุหรี่ จู่ๆ เส้นเลือดสมองแตก แพทย์รู้ \$

ชายแข็งแรง ไม่เหล้า-บุหรี่ จู่ๆ เส้นเลือดสมองแตก แพทย์รู้ "เครื่องดื่มโปรด" สั่งให้เลิกเดี๋ยวนี้!

12/12/2025 (14:05 น.)

อุทาหรณ์! ชายวัย 54 ไม่เหล้า-ไม่สูบบุหรี่ จู่ๆ วูบเส้นเลือดในสมองแตก "วูบเกือบตาย" เพราะสิ่งที่ดื่มแทนน้ำ

เรื่องราวเตือนใจสำหรับคนวัยทำงานที่คิดว่าตัวเองแข็งแรงดี ชายวัย 54 ปี ผู้มีไลฟ์สไตล์สุดเฮลตี้ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และออกกำลังกายเป็นประจำ กลับต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลด่วนด้วยอาการ "เส้นเลือดในสมองแตก" (Stroke) ทั้งที่ไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน

ความดันพุ่งปรี๊ดจนหมอตกใจ

เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เมื่อจู่ๆ เขาก็รู้สึกอ่อนแรงที่ร่างกายซีกซ้าย มีอาการชา ทรงตัวไม่อยู่ พูดจาติดขัดและกลืนลำบาก ครอบครัวจึงรีบนำส่งคลินิกโรคหลอดเลือดสมองใกล้บ้านทันที

นพ.ซูนิล มุนชิ (Sunil Munshi) แพทย์เจ้าของไข้จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ถึงกับผงะเมื่อเห็นตัวเลขความดันโลหิตของคนไข้ที่พุ่งสูงถึง 254/150 mmHg (คนปกติไม่ควรเกิน 120/80) ซึ่งเป็นระดับอันตรายถึงชีวิต ผลสแกนสมองพบว่ามีเลือดออกในสมองส่วนลึก ส่งผลต่อการทรงตัว

แม้แพทย์จะให้ยาควบคุมความดันถึง 5 ชนิด จนอาการดีขึ้น แต่พอกลับบ้านไป ความดันของเขาก็ดีดกลับมาสูงถึง 220 mmHg อีกครั้ง สร้างความมึนงงให้กับทีมแพทย์ เพราะหาสาเหตุไม่เจอ จนกระทั่งคนไข้หลุดปากพูดถึง "เครื่องดื่ม" ที่เขาดื่มทุกวัน ความจริงจึงปรากฏ!

ต้นตอหายนะ: ดื่มสิ่งนี้วันละ 8 กระป๋อง!

คนไข้สารภาพว่า เพื่อให้ตื่นตัวในการทำงานในโกดังสินค้า เขาติดนิสัยดื่ม "เครื่องดื่มชูกำลัง" ชนิดเข้มข้น วันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 2 กระป๋อง รวมเป็น วันละ 8 กระป๋อง!

เครื่องดื่มแต่ละกระป๋องมีคาเฟอีน 160 มก. เท่ากับว่าใน 1 วัน เขารับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายไปถึง 1,200 - 1,300 มก. ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวันถึง 3 เท่า (ไม่ควรเกิน 400 มก.)

นอกจากคาเฟอีนที่ล้นเกินแล้ว ส่วนผสมอื่นๆ อย่าง "ทอรีน" และน้ำตาลปริมาณมหาศาล ยังเข้าไปทำลายผนังหลอดเลือด กระตุ้นหัวใจให้เต้นผิดจังหวะ และเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดจับตัวเป็นก้อน จนนำไปสู่เส้นเลือดในสมองแตกในที่สุด

บทเรียนราคาแพง ตลอดชีวิต

ทันทีที่ทราบสาเหตุ หมอสั่งให้เขา "หยุดดื่มทันที" และเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเลิกดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ความดันโลหิตของเขาก็กลับมาเป็นปกติโดยไม่ต้องพึ่งยาจำนวนมากอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว แม้เวลาจะผ่านไป 8 ปี ชายผู้นี้ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับผลข้างเคียง คืออาการชาที่มือและเท้าซ้ายอย่างถาวร เขาได้แต่กล่าวด้วยความเสียใจว่า "ผมไม่เคยรู้เลยว่าการดื่มมันบ่อยๆ จะอันตรายขนาดนี้ ผมต้องชดใช้ด้วยความเจ็บป่วยที่ติดตัวไปตลอดชีวิต"

คำเตือนจากหมอถึงสายโด๊ป

นพ.มุนชิ ทิ้งท้ายไว้ในรายงานวารสารการแพทย์ BMJ ว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ มีผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะคนอายุน้อย ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือเส้นเลือดในสมองแตกจากการ "ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง" มากเกินไป

ดังนั้น ใครที่รู้ตัวว่ากำลังติดเครื่องดื่มเหล่านี้ ควรเพลาๆ ลงบ้าง ก่อนที่ร่างกายจะรับไม่ไหว เพราะต่อให้ภายนอกดูแข็งแรงแค่ไหน เส้นเลือดข้างในอาจกำลังจะระเบิดโดยที่คุณไม่รู้ตัว