เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

ลดน้ำหนักอย่างได้ผล แค่เดินวันละ 1 ชั่วโมง

ลดน้ำหนักอย่างได้ผล แค่เดินวันละ 1 ชั่วโมง

แบ่งเวลามาเดินเล่นเพลินๆ สักชั่วโมงนึง นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผลแล้ว ยังส่งผลดีต่อร่างกายอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ

ลดน้ำหนักอย่างได้ผล แค่เดินวันละ 1 ชั่วโมง

การเดินวันละ 1 ชั่วโมง สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ดังนี้

  • ยิ่งเดินเยอะ เดินเร็ว และน้ำหนักตัวมากเท่าไร ก็ยิ่งเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นคนที่มีน้ำหนักมากกว่า เดินในระยะทางที่มากกว่า และเดินด้วยความเร็วที่มากกว่า ก็จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าคนที่น้ำหนักน้อยกว่าและเดินช้ากว่า
  • จากงานวิจัยพบว่า ผู้หญิงน้ำหนักมาตรฐาน 11 คน สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 7.7 กิโลกรัม หรือ 10% ของน้ำหนักตัว จากการเดินเร็ว 1 ชั่วโมงต่อวัน ในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจริงๆ แล้ว น้ำหนักของแต่ละคนเริ่มลดลงตั้งแตการเดินในระยะเวลาวันละ 30 นาทีแล้ว
  • ในผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติ หรืออยู่ในภาวะโรคอ้วน หากเดินเร็ววันละ 50-70 นาที เป็นระยะเวลา 3 วันต่อสัปดาห์ สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 2.7 กิโลกรัมใน 12 สัปดาห์
  • หากเดินเร็วทุกวันไปด้วย ควบคุมอาหารไปด้วย จะยิ่งลดน้ำหนักอย่างได้ผลมากขึ้น
  • โดยเฉลี่ยแล้ว การเดินเร็ว 1 ชั่วโมง สามารถเผาผลาญพลังงานได้ราว 500 kcal ต่อครั้ง

ประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อเดินละวันละ 1 ชั่วโมง

นอกจากจะช่วยเรื่องลดน้ำหนักแล้ว การเดินวันละ 1 ชั่วโมงยังส่งผลดีต่อสุขภาพในด้านอื่นด้วย เช่น

  • ลดความอยากกินหวานๆ สำหรับคนที่ติดหวาน โดยเฉพาะคนที่มักอยากกินหวานที่เกิดจากความเครียด
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยพบว่า คนที่เดินเป็นประจำทุกวันใช้วันลาป่วยลดลงมากถึง 43%
  • ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้ 14%
  • ลดความเสี่ยงข้อเสื่อมตามวัย
  • ลดไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) อย่างได้ผล
  • ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น
  • ลดความดันโลหิต
  • ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภท 2
  • ช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

เดินอย่างไรถึงจะลดน้ำหนักอย่างได้ผล

  • ก่อนเดินอาจยืดเส้นยืดสาย ทำท่ากายบริการง่ายๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อน จากนั้นจึงเริ่ม
  • หากเลือกได้ เลือกทางเดินที่มีพื้นเรียบ ไม่สะดุดง่าย เป็นทางทอดยาวไปเรื่อยๆ เหมือนลู่วิ่ง สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และสวมรองเท้าที่เหมาะสมกับการเดิน หรือจะสวมรองเท้าวิ่งก็ได้
  • ขณะเดิน ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเดินจับเวลาหรือเดินจับความเร็ว ขอให้ลองเดินด้วยความเร็วที่ทำให้เริ่มรู้สึกเหนื่อย เริ่มจากเดินช้าๆ เพื่อเป็นการวอร์มร่างกายก่อนเป็นเวลา 5 นาที จากนั้นค่อยๆ เพิ่มความเร็วในการเดินจนทำให้รู้สึกว่าเริ่มหอบ เริ่มเหนื่อย เริ่มเหงื่อซึมนิดๆ และเดินด้วยความเร็วระดับที่ทำให้เริ่มเหนื่อยด้วยความเร็วคงที่ไปอีก 10-15 นาที หากไม่ไหวสามารถลดความเร็วในการเดินเป็นระยะๆ ได้ 
  • ระหว่างเดินหากกระหายน้ำ สามารถผ่อนความเร็วในการเดินแล้วพักจิบน้ำได้เล็กน้อย แต่อย่าดื่มน้ำมากเกินไป ระวังจุกท้องเมื่อเริ่มเดินต่อ
  • สามารถสลับความเร็วเป็นเดินเร็ว-ช้าหากเหนื่อยเกินไปได้ จนกระทั่ง 5 นาทีสุดท้ายลดความเร็วในการเดินลงช้าๆ จนกลายเป็นเดินปกติ
  • ภัยเงียบนักเดินป่า ระวัง \

    ภัยเงียบนักเดินป่า ระวัง "ไข้รากสาดใหญ่" (Scrub Typhus) อันตรายถึงชีวิต!

    ระวังภัยจากการเดินป่า “ตัวไรอ่อน” พาหะนำโรคไข้รากสาดใหญ่ที่อาจแฝงอยู่ในป่า รู้ทันอาการ เสี่ยงแค่ไหน ป้องกันอย่างไรให้ปลอดภัยทุกการเดินป่า

    วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ากัน?

    วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานได้มากกว่ากัน?

    วิ่ง VS เดินเร็ว แบบไหนเผาผลาญพลังงานมากกว่า? ไขคำตอบถ้าวิ่งกับเดินเร็วในระยะทางเท่ากัน พลังงานที่ใช้จะต่างกันหรือไม่

    เดินเร็ววันละ 15 นาที กุญแจสู่ชีวิตยืนยาวและสุขภาพดี

    เดินเร็ววันละ 15 นาที กุญแจสู่ชีวิตยืนยาวและสุขภาพดี

    เดินเร็ววันละ 15 นาที ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เสริมภูมิคุ้มกัน ควบคุมน้ำหนัก และยืดอายุ งานวิจัยยืนยันสุขภาพดีเริ่มได้ง่าย ๆ แค่เดินเร็วทุกวัน

    วิธีบรรเทาอาการ “ปวดหลัง” ตั้งแต่ยืน เดิน นั่ง นอน

    วิธีบรรเทาอาการ “ปวดหลัง” ตั้งแต่ยืน เดิน นั่ง นอน

    อาการปวดหลัง อาจไม่ได้มาจากโรคร้าย แต่อาจเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดิน นั่ง หรือแม้แต่นอนผิดท่า รู้ไว้ก่อนปวดเรื้อรัง

    เดินออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดีกว่ากัน

    เดินออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดีกว่ากัน

    เดินออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดีกว่ากัน เปรียบเทียบข้อดีของแต่ละช่วงเวลา พร้อมเคล็ดลับเลือกให้เหมาะกับสุขภาพและไลฟ์สไตล์คุณ