10 คดีสยองต้องเชือด ที่สุดแห่งปี 2560
ความโหดเหี้ยมไม่เคยจางหาย ความอันตรายยังอยู่รอบกายเราเสมอ ย้อนดูคดีดังที่เกิดขึ้นในรอบปี 2560 เพราะเหตุใดทำไมถึงต้องฆ่า..?
หมูหยอง ฆาตกรเลือดเย็นฆ่าชิงทรัพย์น้องรัน
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2560 หลังจากที่นายนิรันดร์ อายุ 25 ปี ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะขับรถกลับบ้านช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ก่อนที่ญาติจะออกตามหาและพบเป็นศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม โดยสภาพศพถูกเผาทำลายก่อนนำไปฝังเพื่ออำพรางคดี
ซึ่งเป็นที่น่าตกใจเพราะฆาตกรผู้ลงมือก่อเหตุมีอายุเพียงแค่ 17 ปี เท่านั้น แต่สามารถลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็น พร้อมรับสารภาพด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยถึงเหตุผลที่ต้องเชือดว่า
"ที่ฆ่าเพราะอยากได้รถ ทำแล้วก็เฉยๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร ชีวิตมันก็เหมือนกันแหละครับ ฆ่ามดฆ่าปลาทำไมไม่เห็นคิดว่าบาป แค่คิดว่าเป็นสัตว์ธรรมดาก็ฆ่ามันได้ คนก็เหมือนมดแหละครับ"
เปรี้ยวอำหิตฆ่าโหดน้องแอ๋ม หั่นศพอำพรางคดี
เหตุสะเทือนขวัญที่สังคมยังคงไม่ลืม จากกรณีฆ่าหั่นศพ นางสาววริสรา หรือ แอ๋ม อายุ 22 ปี สภาพศพถูกแยกชิ้นส่วนใส่ถังพลาสติกสีดำฝังไว้บริเวณบ้านโนนสง่า จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 60 ที่ผ่านมา
โดยคดีนี้ตำรวจสามารถจับทีมสังหารได้ 4 คน คือ นางสาวปรียานุช หรือ เปรี้ยว, นางสาวกวิตา หรือ เอิร์น, นางสาวอภิวันท์ หรือ แจ้ และ นายวศิน หรือ นิว
แต่ผู้ลงมือเชือดคือเปรี้ยว ซึ่งได้สารภาพว่าตนเองโกรธแค้นที่แอ๋มเป็นคนแจ้งเบาะแสให้ตำรวจมาจับตนพร้อมเพื่อนแก๊งในคดียาเสพติดและแอ๋มยืมเงินไป 3-4 หมื่น แต่ไม่ยอมคืน โดยวันเกิดเหตุบังเอิญไปเจอแอ๋มจึงรับขึ้นรถเพื่อเคลียร์ปัญหาและอยากจะสั่งสอนเท่านั้น
แต่กลับพลั้งมือฆ่าจนเสียชีวิต จึงคิดอำพรางศพโดยการถ่วงน้ำ แต่เนื่องจากศพเริ่มแข็งตัว เกรงว่าหากถ่วงน้ำศพจะลอยขึ้นมาจึงใช้วิธีหั่นศพฝังดิน "ถ้าไม่บังเอิญเจอกัน แอ๋มก็คงไม่ตาย" เหตุผลที่ต้องเชือด
อย่าขวางทางรวย ฆ่าโหดสามเณรปลื้ม
คดีนี้ได้เปิดโปงขบวนการหากินกับวัดนำผลประโยชน์เข้าตัวเองความโลภและผลประโยชน์มหาศาลที่ยากจะปฏิเสธ ชนวนเหตุต้องฆ่าสามเณรปลื้มวัย 17 ปี พร้อมโบกปูนทับเพื่ออำพรางคดีในวัดวังตะวันตก จังหวัดนครศรีธรรมราช
1 มิถุนายน 60 ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาคือ พระเด่นชัย ,นางบิว ภรรยาของพระเด่น ,สามเณรสุริยา ซึ่งพระเด่นชัยและสามเณรสุริยา สารภาพว่าได้ร่วมกันใช้ท่อนเหล็กแป๊บและของแข็งทุบตีสามเณรปลื้ม จนสลบเหมือดไป 2 ครั้งแล้วรุมตีซ้ำอีก จนกะโหลกยุบและเสียชีวิต
ในเวลาต่อมา ก่อนจะนำศพไปฝังใต้ฐานพระแล้วโบกปูนทับ โดยพระเด่นชัยอ้างว่าสามเณรปลื้มไปขโมยทรัพย์สินของภรรยาไปแต่ไม่ยอมรับจึงลงมือซ้อมและทุบตีจนแน่นิ่ง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ
เพราะคิดว่าสามเณรปลื้ม อาจจะไปล่วงรู้เรื่องราวผลประโยชน์ต่างๆ ของกลุ่มผู้ต้องหาจึงถูกพาไปรุมซ้อมจนตาย โดยนางบิว ภรรยาของพระเด่น ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลภายในวัดและเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของวัดทั้งหมด
ทวงหนี้เลือดบังฟัตฆ่าสยองยกครัว 8 ศพ
10 กรกฎาคม 60 คดีสะเทือนขวัญสะท้านกรุงจากกรณีกลุ่มคนร้ายแต่งตัวคล้ายทหารเข้าค้นบ้านของนายวรยุทธ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 จ.กระบี่ ก่อนจะสังหารโหดสมาชิกภายในบ้านยกครัว โดยจ่อยิงที่หัวทีละคนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 8 ราย มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
แต่ทั้งนี้มีผู้รอดชีวิตมาได้ 3 คน เนื่องจากว่าถูกยิงเฉี่ยวที่หัวแล้วแกล้งตายจึงรอดมาได้ ซึ่งมือปืนโหดก็คือคนที่รู้จักกันดี นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต เจ้าหนี้ผู้ใหญ่บ้านยุทธนั่นเอง
สาเหตุที่ต้องเชือดคือปมการจำนองที่ดินที่ผู้ใหญ่ นำที่ดินของพ่อตาแม่ยาย 2 แปลงไปจำนองไว้กับบังฟัต เมื่อหลายปีก่อน แต่เมื่อผ่อนหมด บังฟัตกลับไม่สามารถนำเอกสารโฉนดที่ดินมาคืนได้เนื่องจากนำไปจำนองกับธนาคารไว้
เมื่อผู้ใหญ่ทวงถามหลายครั้ง และถูกผู้ใหญ่ขู่ฆ่า บังฟัตจึงหนีไปอยู่ต่างจังหวัด แล้วย้อนกลับมาวางแผนเพื่ออุ้มฆ่าผู้ใหญ่บ้าน และสร้างหลักฐานเท็จว่าผู้ใหญ่เครียดเรื่องเงินจึงฆ่ายกครัวและฆ่าตัวตาย
แป๊ก ปากหวาน ฆาตกรโหดฆ่าข่มขืน
13 กรกฎาคม 60 คดีเสียชีวิตปริศนาของ “น้องพลอย” เด็กหญิงวัย 14 ปี จ.ฉะเชิงเทรา กลายเป็นที่สนใจของสังคมเนื่องจากมีการสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากเหล็กดัดฟันแฟชั่นหลุดเข้าไปขวางหลอดลมจนทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต
แต่หลังจากที่ชันสูตรพลิกศพกลับพบว่าน้องพลอยเสียชีวิตด้วยการขาดอากาศหายใจ มีร่องรอยการถูกทำร้ายที่บริเวณลำคอและมีร่องรอยการถูกข่มขืนอีกด้วย
จึงนำไปสู่การจับกุมตัวฆาตกรคือ “นายสุพรชัย” หรือฉายา “แป๊ก ปากหวาน” อายุ 31 ปี ฆาตกรข่มขืนต่อเนื่อง ซึ่งรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์เข้าไป ก่อนเดินไปยังบ้านผู้ตายพบเห็นเด็กสาวนอนหลับอยู่คนเดียว
จึงใช้กำลังล่วงละเมิดทางเพศ และกลัวเหยื่อจดจำใบหน้าได้จึงตัดสินใจฆ่าปิดปากด้วยการบีบคอจนขาดใจตายคามือแล้วจึงหลบหนีออกจากพื้นที่ สาเหตุที่ต้องเชือด “กลัวว่าเผื่อเค้าร้องและหวาดระแวงว่ารุ่งเช้าน้องจะมาแจ้งความ”
รักต้องฆ่าสิบเอกหึงโหดฆ่าเผา "น้องพลอย"
โศกนาฏกรรมความรักเปลี่ยนเป็นความแค้น เมื่อการปันใจเปลี่ยนเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการฆาตกรรมสุดเหี้ยมโหด จากคดีการหายตัวไปกว่า 3 ปี ของ น้องพลอย หรือ น.ส.พลอยรินทร์ วัย 28 ปี
จนนำไปสู่การจับกุมอดีตสิบเอกพลกฤต ทหารสังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ลพบุรี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 60 ที่ได้ทำการอุ้มน้องพลอยอดีตแฟนสาวก่อนนำตัวไปฆ่าและเผาอำพรางศพทิ้งในเขตอำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งสาเหตุทั้งหมดเกิดจากความหึงหวงเพราะน้องพลอยตีตัวออกห่าง หลังทราบว่าตนมีภรรยาแล้ว
สาเหตุที่ต้องเชือด “น้องพลอย พยายามตีตัวออกห่างและมีปัญหาทะเลาะกันหลายเรื่อง จึงทำร้ายน้องพลอยและบีบคอจนถึงแก่ความตาย”
เชือดล้างหนี้ ผู้กองเหน่งฆ่าโหด ผอ.อ้อย
3 สิงหาคม 60 การหายตัวไปอย่างลึกลับของ ผอ.อ้อย หรือ น.ส.จุฑาภรณ์ อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการกองการศึกษา อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลายเป็นข่าวโด่งดัง หลังจากญาติได้ออกตามหา พร้อมพึ่งพาทั้งผู้สื่อข่าวและทางไสยศาสตร์
จนเวลาล่วงเลยมากว่า 90 วัน จึงพบโครงกระดูก เสื้อผ้าและนาฬิกาของ ผอ.อ้อย ถูกทิ้งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ กองร้อยทหารพรานที่ 2305 อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
นำไปสู่การจับกุมผู้กองเหน่ง หรือ ร.อ.ศุภชัย อายุ 30 ปี ฆาตกรอุ้มฆ่า ผอ.อ้อย โดยเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมครั้งนี้คือเส้นทางการเงินของผู้กองเหน่งที่ใช้บัญชีตัวเองในการหลอกให้ญาติ ผอ.อ้อย โอนเงินเข้ามาหลังจากการหายตัวไป
สาเหตุที่ต้องเชือด “ติดหนี้ ผอ.อ้อย จำนวนกว่า 5 แสนบาท หากไม่คืนเงินจะทำเรื่องฟ้องผู้บังคับบัญชา“
แทงยับสาว 19 เปลือยท่อนล่างดับสยอง
24 กันยายน 60 จากกรณีพบศพ น.ส.ประภาพร หรือ เมย์ อายุ 19 ปี พนักงานคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ถูกแทงพรุนไปทั้งร่างสภาพศพเปลือยท่อนล่างเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ภายในห้องพัก จ.นนทบุรี
โดยมือมีดคือนายธีระพงศ์ หรือ หนุ่ม อายุ 29 ปี เพื่อบ้านที่อยู่ไม่ไกลกันและแอบชอบผู้ตายมานานแล้ว เมื่อมีโอกาสครั้งแรกจึงแอบงัดเข้าไปในห้องผู้ตาย พบกุญแจสำรองวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งจึงหยิบเก็บไว้
กระทั่งวันเกิดเหตุได้ไขประตูกลับเข้าไปใหม่แล้วรอผู้ตายกลับมาโดยซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ พอเห็นน้องเมย์นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนที่นอน เลยใช้มีดจี้หวังข่มขืน แต่ผู้ตายร้องเสียงดังเลยจ้วงแทงไม่ยั้งจนแน่นิ่ง พอฟื้นขึ้นมาก็แทงซ้ำอีกจนเสียชีวิต
ซึ่งตอนนั้นก็หน้ามืดพยายามถอดกางเกงเหยื่อออกเพื่อข่มขืนอีก แต่สุดท้ายทำไม่ได้เพราะเลือดไหลมากเกินไป จนอวัยวะเพศไม่แข็งตัว จึงเปลี่ยนใจขโมยของแล้วหนี
รุมฟันไม่เลี้ยงฆาตกรโหดฆ่ายกครัว 4 ศพ
28 พฤศจิกายน 60 คดีสะเทือนขวัญพบศพผู้เสียชีวิต 4 ศพ ถูกฟันด้วยของมีคมตามร่างกายจนเสียชีวิต ประกอบไปด้วย นายนำพล (สามี) อายุ 30 ปี ,น.ส.มุกดา (ภรรยา) อายุ 27 ปี ,ด.ญ.เอ อายุ 5 ปี (ลูกสาว) ,นายประสงค์ อายุ 50 ปี บิดาของนายนำพล ทั้งหมดเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักคนงานกรีดยางกลางสวนยางพารา
ทั้งนี้เบาะแสที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ตั้งวงดื่มเหล้ากับคนงานชาวมอญ 5 คน ก่อนที่ผู้ตายจะมีปากเสียงกันเรื่องทวงเงิน 2,000 บาท ที่ชาวมอญยืมไปแล้วไม่คืนก่อนที่ครอบครัวคนไทยทั้งหมดถูกรุมฆ่ายกครัว
รักปันใจยิงดับหมอปอ จบปัญหารักสามเศร้า
โศกนาฏกรรมความรักที่ไม่ลงตัว คดีสะเทือนขวัญส่งท้ายปีเมื่อว่าที่เจ้าบ่าวฆ่าโหดว่าที่เจ้าสาวก่อนถึงวันแต่งงานเพียงแค่ 5 วัน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 60 พบศพ นางสาวนนทิญา หรือหมอปอ อายุ 25 ปี พนักงานทันตกรรมสาธารณสุข รพ.สต.สลุย จ.ชุมพร นอนเสียชีวิตสภาพศพถูกยิงกลางอกด้วยปืนลูกซอง
ซึ่งฆาตกรคือ นายรณชัย หรือ เก่ง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า แฟนหนุ่มของผู้ตาย โดยสารภาพว่า ไม่ต้องการที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ตาย เนื่องจากว่ามีหญิงสาวคนอื่น ซึ่งเป็นบุคคลที่สามในชีวิตเข้ามาแทนที่ ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงตัดสินใจก่อเหตุ
สาเหตุที่ต้องเชือด “ไม่รัก ไม่อยากแต่งงาน”
ด้านกิ๊กสาวของนายเก่งวัยเพียง 23 ปี ทำงานอยู่ที่เดียวกันและมีฐานะค่อนข้างดี โดยทั้งคู่แอบคบกันมากว่า 1 ปีแล้ว ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุกิ๊กสาวเป็นคนขับรถพานายเก่งมาหาหมอปอและเป็นผู้จัดหาอาวุธมาให้ด้วยจึงโดนข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน จบปัญหารักสามเศร้าด้วยความสูญเสียทั้งสามคน
คดีสยองที่เกิดขึ้นในสังคมไทยล้วนแล้วแต่เกิดจากกิเลสและอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น หากฆาตกรลองไตร่ตรองดูสักนิดชีวิตของผู้บริสุทธิ์คงไม่สูญเปล่า นั่นคือสิ่งที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้นตลอดปีและตลอดไป