เก็บตกเกร็ด Tomb Raider เวอร์ชั่นรีบูท
จากเกมชื่อดังในอดีต สู่การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่องดังในปี 2001 นำแสดงโดยสาวแองเจลิน่า โจลี่ ก่อนจะได้รับการสร้างภาคต่อในปี 2003 หลังจากนั้น กว่า 15 ปี บนจอภาพยนตร์อาจจะไม่มีตัวละครระดับไอคอนอย่าง “ลาร่า” ขึ้นมาโลดแล่น แต่ในปีนี้เธอกลับมาแล้ว เราไปดูกันดีกว่าว่า “เธอ” เปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
รีบูทจักรวาลใหม่
ลาร่า ครอฟต์ เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีลอร์ด ริชาร์ด ครอฟท์ (โดมินิด เวสต์) ผู้มีธุรกิจระดับพันล้าน แต่อีกด้านหนึ่งของเขา คือริชาร์ดรักในการผจญภัยตามหาขุมทรัพย์ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งลูกสาวเอาไว้เบื้องหลัง
ลาร่าในวัย 21 ปี เธอกลายเป็นเด็กวัยรุ่นหัวทะโมนที่ชอบกิจกรรมต่อยมวย ปั่นจักรยานผาดโผน ยิงธนู เธอกลายเป็นคนปฏิเสธความร่ำรวยที่เธอเติบโตมาและพยายามจะยืนอยู่บนลำแข็งของตัวเอง เธอหันหลังให้บริษัทของพ่อ เพราะเธอไม่อยากจะเซ็นพินัยกรรมว่าพ่อของเธอนั้นได้ตายจากไปแล้ว
จนกระทั่งเหตุการณ์ต่างๆได้บีบให้เธอต้องยอรับในตัวพินัยกรรม ก่อนเธอจะได้พบเบาะแสอันนำไปสู่การตายของพ่อเธอ หลังจากปลายทางสุดท้ายที่ริชาร์ดได้เดินทางไปยัง “หลุมศพของฮิมิโกะ” สุสานในตำนานลึกลับที่อยู่บนเกาะสักแห่งนอกชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น เธอจึงทุ่มหมดหน้าตักเพื่อสืบสาวความจริงว่าพ่อของเธอเสียชีวิตได้อย่างไร ก่อนจะลาร่าจะได้พบกับการผจญภัยสุดอันตราย และมิตรสหายต่างแดนที่เธอคาดไม่ถึง
ดัดแปลงมาจากเกมในเวอร์ชั่นปี 2013
โครงสร้างของหนังภาคนี้ดัดแปลงมาจากเกมในเวอร์ชั่นปี 2013 ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวจุดกำเนิดของลาร่า ซึ่งเธอยังไม่มีทักษะในการต่อสู้ หรือผจญภัยที่โชกโชน เธอต้องเดินทางไปยังเกาะยามาไท (เกาะเดียวกับในเวอร์ชั่นหนัง) เมื่อเกมออกวางตลาดก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดี ทั้งฝั่งผู้เล่นและนักวิจารณ์เกม ทั้งเรื่องกราฟฟิก ระบบเกม การพัฒนาเกม รวมไปถึงบทของเกม แม้จะโดนติติงเล็กน้อยในส่วนของการใช้ระบบผู้เล่นหลายคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเกม ทั้งนี้ตัวเกมยังมีความ “ดาร์ค” สมจริงสมจังมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงเวลาที่ผู้เล่นไม่สามารถทำตัวละครผ่านภารกิจได้และ “ตาย” ก็เป็นฉากตายที่โหดร้ายน่ากลัวพอประมาณ
อลิเซีย วิแกนเดอร์กับบทลาร่า
เป็นอีกหนึ่งครั้งที่นักแสดงหญิงมากฝีมือกระโดดมารับบทตัวละครจากเกม ซึ่งอลิเซียทุ่มเทในการรับบทบาทนี้ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนการต่อสู้ ต่อยมวย ยิงธนู ยิ่งไปกว่านั้นความพยายามในการทำความเข้าใจพื้นเพของตัวละครยิ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวละครนี้มีมิติมายิ่งขึ้น ในหนังเรื่องจะได้เห็น “ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกที่เข้มข้น” ลาร่าสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอเหลือแต่พ่อ ทั้งสองจึงมีความใกล้ชิดมาก
ความใกล้ชิดของทั้งสองผู้ชมจะได้เห็นผ่านฉากพ่อเล่านิทานให้ลูกฟัง คุณพ่อสอนยิงธนูและล่าสมบัติ การฝึกแก้ไขปริศนาต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป โลกของธุรกิจก็พรากเวลาระหว่างเธอกับพ่อไปเรื่อยๆทั้งสองมีเวลาร่วมกันน้อยลง และวันหนึ่งตอนเธออายุ 14 ปี พ่อของเธอก็ออกไปทำงานและก็ไม่เคยกลับมาหาเธออีกเลย
ก่อนจะรับบทนี้อลิเซียที่มีพื้นฐานการเต้นบัลเลต์มาในอดีต ยอมรับว่าทักษะดังกล่าวทำให้การเคลื่อนไหวในการต่อสู้ มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น แต่เธอก็ต้องเข้ารับโปรแกรมการฝึกที่หนัก แถมเธอยังต้องควบคุมอาหารและตารางการออกกำลังกายอย่างเข้มข้น เพราะในฉากที่เราเห็นในหนัง อลิเซียพยายามที่จะแสดงเองเกือบทั้งหมด แม้จะเป็นฉากที่อันตราย เธอพยายามพึ่งพาสตันท์แมนให้น้อยที่สุด กระทั่งฉากช่วงเปิดเรื่องที่ต้องต่อยมวยดวลหมัด เธอก็ตัดสินใจต่อยเองเจ็บเองด้วยเช่นกัน
จับตาตัวละคร อันนา มิลเลอร์
แม้จะเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวขึ้นบนจออย่างน้อยนิด แต่การใช้นักแสดงที่มีฝีมืออย่างคริสติน สก็อตต์ โธมัส มารับบทนี้ อาจจะหมายความว่าตัวละครนี้ จะต้องมีบทบาทสำคัญในอนาคตอย่างแน่นอน (อาจจะไม่ใช่ในหนังภาคนี้) ซึ่งตัวละครนี้มารับบทเป็นผู้บริหารของบริษัทครอฟต์โฮลดิ้ง เธอพยายามจะให้ลาร่ามาเซ็นพินัยกรรมและเชื่อว่า เธอควรจะมารับหน้าที่ในการบริหารบริษัทได้แล้ว
ลู เรน หนุ่มจีนที่กลายเป็นตัวแปรสำคัญ
อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องโยนนักแสดงเอเชียเข้ามาในหนัง ที่คาดหวังจะตีตลาดในภูมิภาคของเรา ซึ่งการมีนักแสดงหลักเป็นคนจีน ในหนังหลายเรื่องก็ทำให้รายได้ของหนังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ การที่ได้แดเนียล วูมารับบทเป็นลูเรน ลูกชายเจ้าของเรือที่ครั้งหนึ่ง พ่อของเขาได้รับการว่าจ้างจากริชาร์ดให้พาเขาไปยังเกาะลึกลับ หลังจากที่เขาได้พบกับลาร่าที่ประสบชะตากรรม “พ่อหาย” เหมือนกับเธอ ทำให้ลูเรนต้องแบกรับกิจการทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทัวร์ ขนของเถื่อน ทำประมง เพราะเขาต้องแบกรับหนี้ทั้งหมดเอาไว้ เขาจึงต่างจากลาร่าที่คิดจะตามหาพ่อ
จากเสื้อกล้าม 220 ตัว สู่เสื้อ 1 ตัวในหนัง
ในหนังเรื่องนี้ลาร่าต้องใส่เสื้อกล้ามตะลุยแหลก ตั้งแต่ที่เธอมาถึงเกาะยามาไท การออกแบบเสื้อผ้าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะทีมงานคอสตูมต้องไปซื้อเสื้อกล้ามมาเลาะตะเข็บออกแล้วเย็บด้านหน้าของเสื้อสองตัวเข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นหมายความพวกเขาต้องไปซื้อเสื้อกล้ามมาสแตนบายไว้ 220 ตัว เพื่อการทำชุด 110 ตัว ก่อนนำมาย้อมสี เพื่อให้มันออกมาเหมือนผ่านการใช้งานมาแล้ว ตามที่คนดูได้เห็นเช่นในเรื่อง