เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

Face/Off รีเมคและ Tomb Raider ภาคต่อมาแน่

Face/Off รีเมคและ Tomb Raider ภาคต่อมาแน่

ถือเป็นยุคสมัยแห่งการรีเมคอย่างแท้จริง เพราะล่าสุด สตูดิโออย่างพาราเมาท์ได้ตัดสินใจหยิบเอาหนังแอ็คชั่นเรื่องดังในอดีตอย่าง Face/Off ผลงานการกำกับของ “จอห์น วู” ในปี 1997 กลับมาพัฒนาอีกครั้ง

ตามรายงานของสตูดิโอพาราเมาท์ จะรีเมคหนังเรื่องนี้โดยเฟ้นหานักแสดงนำคู่ใหม่ที่จะมาสลับหน้ากัน นอกจากนี้หนังจะยังได้มือเขียนบทอย่าง โอเรน ยูซีล จาก 22 Jump Street และ Sonic the Hedgehog มาพัฒนาเรื่องราวครั้งใหม่

สำหรับเรื่องราวของ Face/Off ในเวอร์ชั่นปี 1997 นั้นบอกเล่าเรื่องราวของฌอน อาร์เชอร์ (จอห์น ทราโวต้า) เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ที่ตัดสินใจผ่าตัดเอาใบหน้าของ แคสเตอร์ ทรอย (นิโคลัส เคจ) อาชญากรคู่ปรับตัวร้ายที่อยู่สภาพโคม่าปางตาย โดยแผนการของฌอนคือการปลอมตัวเพื่อแทรกซึมเข้าไปอยู่ในฝ่ายผู้ก่อการร้าย เพื่อทำลายแผนการชั่ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อแคสเตอร์เองกลับฟื้นคืนสติขึ้นมาและตัดสินใจที่จะขโมยใบหน้าของฌอนไปใช้เพื่อแทรกซึมเข้าไปอยู่ในฝ่ายของเอฟบีไอ อีกทั้งแทรกตัวเข้าไปทำความรู้จักกับคนในครอบครัวของฌอน เหตุการณ์ทั้งหมดจึงนำมาซึ่งความขัดแย้ง วุ่นวาย จนนำไปสู่สถานการณ์เลวร้าย ที่ฌอนต้องหาทางยุติปัญหาทั้งหมดและปกป้องคนที่เขารักจากน้ำมือของแคสเตอร์ ทรอย

Face/Off ในเวอร์ชั่นปี 1997 เรียกได้ว่าเป็นหนัง “ภาพจำ” ของแฟนหนังแอ็คชั่นในยุค 90 อย่างแท้จริง อีกทั้งยังถือเป็นผลงานของผู้กำกับ “จอห์น วู” ที่โกอินเตอร์ไปกำกับหนังฮอลลีวูดในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆไม่จะเป็นสภาพสโลว์โมชั่น นกพิราบ รวมไปถึงตัวละครถือปืนสองมือ ตัวละครผู้หญิงในหนังไม่ได้เป็นแค่เพียงไม้ประดับหรือช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่พวกเธอมีกึ๋นในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้ จุดเด่นประการถัดมาคือการแสดงของสองดารานำทั้งจอห์น ทราโวต้า และ นิโคลัส เคจ ที่ต่างสนุกกับการพลิกบทบาทสลับขั้ว มีการชิงไหวชิงพริบ แสดงฉากดราม่าเน้นการแสดงเข้มข้น จึงทำให้หนังเรื่องนี้จัดเป็นหนึ่งในหนังแอ็คชั่นที่หยิบมาดูซ้ำก็ยังสนุกอยู่จนถึงทุกวันนี้

คงต้องรอข่าวคราวอัพเดทกันต่อไปว่า ทีมนักแสดงชุดใหม่จะเป็นใคร จะมีการเปลี่ยนแปลง “เพศ” ของนักแสดงนำให้กลายเป็นผู้หญิงหรือไม่ เส้นเรื่องจะมีการเพิ่มรายละเอียดตรงไหนเข้าไปหรือเปล่า น่าจะได้ทราบรายละเอียดกันในอีกไม่ช้า

 

Tomb Raider ภาคต่อมาแน่นอน

แม้ว่า Tomb Raider ในเวอร์ชั่นรีเมคที่นำแสดงโดยสาวอลิเซีย วิแกนเดอร์ ในปี 2018 จะไม่ประสบความสำเร็จในประเทศอเมริกาสักเท่าไหร่ เนื่องจากเมื่อสิ้นสุดการฉาย หนังสามารถทำรายได้ในบ้านเกิดไปแค่เพียง 58 ล้านเหรียญฯ เท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาจากตลาดต่างประเทศแล้ว หนังทำรายได้นอกสหรัฐไปถึง 216 ล้านเหรียญฯ ส่งผลให้หนังเรื่องนี้สามารถทำรายได้ทั่วโลกไปทั้งสิ้น 274 ล้านเหรียญฯ จากต้นทุนในการสร้างที่ 94 ล้านเหรียญฯ

ผลงานหนังภาคแรกเป็นผลงานการกำกับของรอร์ อูธัก บอกเล่าเรื่องราวที่อ้างอิงมาจากตัวเกมในเวอร์ชั่นปี 2013 เป็นหลัก ลาร่า ครอฟต์ เป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีลอร์ด ริชาร์ด ครอฟท์ (โดมินิด เวสต์) ผู้มีธุรกิจระดับพันล้าน แต่อีกด้านหนึ่งของเขา คือริชาร์ดรักในการผจญภัยตามหาขุมทรัพย์ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งลูกสาวเอาไว้เบื้องหลัง

ลาร่าในวัย 21 ปี เธอกลายเป็นเด็กวัยรุ่นหัวขบถที่ชอบกิจกรรมต่อยมวย ปั่นจักรยานผาดโผน ยิงธนู เธอกลายเป็นคนปฏิเสธความร่ำรวยที่เธอเติบโตมาและพยายามจะยืนอยู่บนลำแข็งของตัวเอง เธอหันหลังให้บริษัทของพ่อ เพราะเธอไม่อยากจะเซ็นพินัยกรรมว่าพ่อของเธอนั้นได้ตายจากไปแล้ว

จนกระทั่งเหตุการณ์ต่างๆได้บีบให้เธอต้องยอรับในตัวพินัยกรรม ก่อนเธอจะได้พบเบาะแสอันนำไปสู่การตายของพ่อเธอ หลังจากปลายทางสุดท้ายที่ริชาร์ดได้เดินทางไปยัง “หลุมศพของฮิมิโกะ” สุสานในตำนานลึกลับที่อยู่บนเกาะสักแห่งนอกชายฝั่งประเทศญี่ปุ่น เธอจึงทุ่มหมดหน้าตักเพื่อสืบสาวความจริงว่าพ่อของเธอเสียชีวิตได้อย่างไร ก่อนจะลาร่าจะได้พบกับการผจญภัยสุดอันตราย และมิตรสหายต่างแดนที่เธอคาดไม่ถึง

แม้ว่าหลังสิ้นสุดการฉาย บรรดาแฟนหนังต่างก็มองว่า Tomb Raider ในเวอร์ชั่นนี้คงไม่ได้ไปต่อ แต่ล่าสุดทางสตูดิโออย่าง MGM ได้เผยแล้วว่าหนังภาคต่อนี้จะได้ผู้กำกับอย่าง เบน วีทลีย์ มากุมบังเหียน โดยผลงานที่เบนเคยทำคือหนังแอ็คชั่นอินดี้เรื่อง Kill List ในปี 2011 หนังโพสต์ไซไฟอย่าง High-Rise ซึ่งนำแสดงโดยทอม ฮิดเดิลตัน ในปี 2015

ตัวหนัง Tomb Raider 2 ถูกวางกำหนดการเข้าฉายในอเมริกาเอาไว้ที่ 19 มีนาคม ปี 2021

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ลาร่า ครอฟท์ในเวอร์ชั่นยิงกันหูดับ

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ลาร่า ครอฟท์ในเวอร์ชั่นยิงกันหูดับ

Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ปี 2003 บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของลาร่า ครอฟท์ (แองเจลีนา โจลี) ที่อัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นจัดเต็ม

เก็บตกเกร็ด Tomb Raider เวอร์ชั่นรีบูท

เก็บตกเกร็ด Tomb Raider เวอร์ชั่นรีบูท

จากเกมชื่อดังในอดีต สู่การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่องดังในปี 2001 นำแสดงโดยสาวแองเจลิน่า โจลี่ ก่อนจะได้รับการสร้างภาคต่อในปี 2003 หลังจากนั้น กว่า 15 ปี

ประกาศแล้ว! ผู้จะมารับบท ลาร่า ครอฟท์ คนใหม่ใน Tomb Raider

ประกาศแล้ว! ผู้จะมารับบท ลาร่า ครอฟท์ คนใหม่ใน Tomb Raider

หลังจากก่อนหน้านี้มีการคาดเดากันมากมายว่านักแสดงที่จะมารับบทนักล่าขุมสมบัตินั้นคงจะหนีไม่พ้นสาว เดซี่ ริดลี่ย์ จาก Star Wars: Episode VIII ซึ่งหลายสำนักข่าวก็รายงานข่าวกันทั่วโลก