เนื้อหาในหมวด หนัง-ละคร

รีวิว Tomb Raider สายสัมพันธ์แห่งการผจญภัย

รีวิว Tomb Raider สายสัมพันธ์แห่งการผจญภัย

 

 

แม้ว่าหนังอย่าง Tomb Raider จะดัดแปลงมาจากเกมยอดฮิตชื่อดังก็ตาม ซึ่งในภาคแรกๆของเกมนี่คือเรื่องราวของ ลาร่าที่ต้องออกผจญภัยตามล่าขุมสมบัติตามหลุมศพ ซึ่งเธอต้องฝ่าฟันอุปสรรค อาทิกับดักสุดอันตราย ผู้ร้ายในคราบอาชญากร แต่เหนืออื่นใดคือคนที่เคยผ่านเกมนี้ในยุคแรก คงต้องบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า กว่าจะผ่านด่านแต่ละช่วงของเกมไปได้ ก็เล่นเอาหืดขึ้นคอเพราะ “ยาก” เหลือเกิน

 

เมื่อครั้งที่ Tomb Raider ถูกดัดแปลงเป็นหนังจอใหญ่ในปี 2001 แองเจลิน่า โจลี่ คือนักแสดงที่ได้มาสวมบทบาทเป็นลาร่า ครอฟท์ แต่ในเวอร์ชั่นนี้ดูเหมือนเส้นเรื่องจะไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการให้ตัวละครเอกของเรื่องออกตะลุยไปตามอุปสรรคต่างๆ ซึ่งภาพความทรงจำในหนังภาคนี้ สิ่งที่โดดเด่นพอๆ กับตัวเอกคือฉากหลังของหนังที่เป็นปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา (ยังไม่รวมไปถึงเทวรูปที่ลุกขึ้นมามีชีวิตและฟาดฟันกับนางเอก) ถึงแม้ว่าหนังจะโดนรุมถล่มยับจากนักวิจารณ์ แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะบอกว่ามันเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเกมและดูสนุกมากเรื่องหนึ่งในยุคนั้น

 

สำหรับ Tomb Raider ในเวอร์ชั่นล่าสุดที่ดัดแปลงมาจากเกมในปี 2013 (ซึ่งตัวเกมนั้นก็พยายามรีบูตจักรวาลใหม่และใส่เรื่องราวปูมหลังของตัวละครมากยิ่งขึ้น ก็ช่วยเพิ่มความมีเลือดเนื้อของลาร่าให้มากขึ้นนั่นเอง เมื่อได้รับการดัดแปลงเป็นหนัง ในส่วนของบทเกมก็กลายเป็น “ตัวช่วย” สำคัญที่ทำให้หนังเวอร์ชั่นล่าสุด เป็นมากกว่าแค่หนังแอ็คชั่นเกมตะลุยด่านธรรมดา

 

 

ถึงแม้ว่า Tomb Raider เวอร์ชั่นล่าสุดจะดำเนินเรื่องแบบสูตรสำเร็จตามประสาหนังผจญภัยออกล่าขุมทรัพย์ แบบภาคบังคับจ๋า คนดูหนังที่ผ่านตากับหนังแนวนี้คงจะพอเดาได้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวละคร แต่โชคดีที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นหรือฉากการเอาตัวรอดจากกับดักสุดอันตรายในหนังเรื่องนี้ก็ดูสนุกมากเลยทีเดียว

 

ข้อดีอีกประการหนึ่งคือการพลิกบทบาทของนักแสดงสาวอลิเซีย สลัดคราบ “ทูม เรเดอร์” คนเก่าทิ้งไปจนหมด และการแสดงของเธอยังเพิ่มมิติให้กับตัวละครนี้มีเส้นเรื่องของชีวิต พัฒนาการ บาดเจ็บได้ เหนื่อยเป็น เราได้เห็นแง่มุมความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อที่น่าสนใจ และทำให้ผู้ชมซึมซับได้ว่าเธอนั้นสนิทและรักพ่อของตัวเองมากแค่ไหน และทำไมสายใยดังกล่าวจึงกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้ผู้หญิงคนนี้ก้าวเดินไปในเส้นทางเดียวกับพ่อของเธอในฐานะ “ผู้ปกป้องขุมสมบัติโบราณ”

 

ไม่ใช่ Tomb Raider จะเป็นหนังจากเกม แต่ตอนนี้หนังเรื่องนี้พยายามทำตัวเองเป็นแฟรนชายส์และพยายามขยายจักรวาลของตัวเองในอนาคต

 

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ลาร่า ครอฟท์ในเวอร์ชั่นยิงกันหูดับ

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ลาร่า ครอฟท์ในเวอร์ชั่นยิงกันหูดับ

Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life ปี 2003 บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของลาร่า ครอฟท์ (แองเจลีนา โจลี) ที่อัดแน่นไปด้วยฉากแอ็คชั่นจัดเต็ม

Face/Off รีเมคและ Tomb Raider ภาคต่อมาแน่

Face/Off รีเมคและ Tomb Raider ภาคต่อมาแน่

ถือเป็นยุคสมัยแห่งการรีเมคอย่างแท้จริง เพราะล่าสุด สตูดิโออย่างพาราเมาท์ได้ตัดสินใจหยิบเอาหนังแอ็คชั่นเรื่องดังในอดีตอย่าง Face/Off ผลงานการกำกับของ “จอห์น วู” ในปี 1997 กลับมาพัฒนาอีกครั้ง

เก็บตกเกร็ด Tomb Raider เวอร์ชั่นรีบูท

เก็บตกเกร็ด Tomb Raider เวอร์ชั่นรีบูท

จากเกมชื่อดังในอดีต สู่การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่องดังในปี 2001 นำแสดงโดยสาวแองเจลิน่า โจลี่ ก่อนจะได้รับการสร้างภาคต่อในปี 2003 หลังจากนั้น กว่า 15 ปี

ประกาศแล้ว! ผู้จะมารับบท ลาร่า ครอฟท์ คนใหม่ใน Tomb Raider

ประกาศแล้ว! ผู้จะมารับบท ลาร่า ครอฟท์ คนใหม่ใน Tomb Raider

หลังจากก่อนหน้านี้มีการคาดเดากันมากมายว่านักแสดงที่จะมารับบทนักล่าขุมสมบัตินั้นคงจะหนีไม่พ้นสาว เดซี่ ริดลี่ย์ จาก Star Wars: Episode VIII ซึ่งหลายสำนักข่าวก็รายงานข่าวกันทั่วโลก