รู้ไว้ดีกว่า "หัวหอม" สีแดง-เหลือง-ขาว กินอยู่แทบทุกวัน รู้ไหมว่ามันไม่เหมือนกัน!
รู้หรือไม่ "หัวหอม" คือราชาแห่งการป้องกันมะเร็ง แล้วสีแดง-เหลือง-ขาว แตกต่างกันอย่างไร กินดิบอันตรายหรือไม่?
หัวหอม เป็นอาหารยอดนิยมในชีวิตประจำวัน มีผลดีมากในการลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ดีต่อหัวใจ และเมื่อเร็วๆ นี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบประโยชน์อันน่ามหัศจรรย์อีกประการหนึ่ง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "ราชาแห่งการต่อต้านมะเร็ง" โดยเฉพาะโรคมะเร็งตับ หากรับประทานเป็นประจำทุกวัน
โดยการวิจัยซึ่งตีพิมพ์ใน European Journal of Epidemiology แสดงให้เห็นว่าการรับประทานหัวหอม 5.5 กรัมต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้ถึง 33% โดยทีมวิจัยรวบรวมข้อมูลจากผู้ชายเกือบ 60,000 คนในเซี่ยงไฮ้ รวมถึงข้อมูลทางโภชนาการเพื่อประเมินความสัมพันธ์ระหว่างการรับประทานอาหารกับความเสี่ยงมะเร็งตับ
ในระหว่างการติดตามผล 12 ปี มีผู้ป่วยมะเร็งตับรายใหม่ 431 ราย การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าปัจจัยทางโภชนาการที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงมะเร็งตับ ได้แก่ เรตินอล หัวหอม และแมงกานีส โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคหัวหอมที่เพิ่มขึ้นแต่ละหน่วย สัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของมะเร็งตับถึง 33% เพราะหัวหอมอุดมไปด้วยฟลาโวนอยด์ อัลลิลซัลไฟด์ และสารประกอบอินทรีย์ที่มีกำมะถัน ส่วนผสมเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการกลายพันธุ์เพื่อให้เกิดผลในการต่อต้านมะเร็ง
หัวหอมแต่ละสีแตกต่างกันหรือไม่?
หัวหอม อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน แคลเซียม เหล็ก ซีลีเนียม และแร่ธาตุอื่นๆ เช่น พรอสตาแกลนดิน สเตียรอยด์ ฟลาโวนอยด์ และสารประกอบที่มีกำมะถัน สารทั้งหมดนี้มีประสิทธิภาพสูงต่อสุขภาพ เช่น ต้านเชื้อแบคทีเรีย สารต้านอนุมูลอิสระ และลดคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคอ้วน เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ
หัวหอมแบ่งได้เป็น 3 ประเภทตามสี ได้แก่ หัวหอมสีแดง (บางคนเรียกสีม่วง), หัวหอมสีเหลือง และหัวหอมสีขาว แล้ว 3 ประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร?
หัวหอมสีแดงมีระดับแอนโทไซยานิน อัลลิซิน และเควอซิทินสูงกว่า มีปริมาณสารอาหารสูงสุด โภชนาการสูงสุด ในขณะที่หัวหอมสีเหลืองและหัวหอมสีขาว มีวิตามินซีและแคโรทีนในระดับที่สูงกว่า
ในแง่ของรสชาติ หัวหอมสีแดงจะมีรสเผ็ดเข้มข้น สามารถรับประทานปรุงสุกหรือใช้เป็นเครื่องปรุงรสได้ ส่วนหัวหอมสีขาวและสีเหลืองจะมีรสเผ็ดน้อยกว่า อีกทั้งหัวหอมสีเหลืองยังมีรสชาติหวานกว่าสีอื่นๆ ด้วย เหมาะสำหรับรับประทานดิบได้
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ แผลในกระเพาะอาหาร แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น หรือมีอาการแพ้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหัวหอม