แพทย์อเมริกัน แนะนำกิน 6 อาหาร "ตับดี" มีมากกว่าดื่มชา-กินปลา แถมไทยมีขายครบ!
แพทย์อเมริกัน แนะนำให้กิน 6 อาหาร ช่วยตับทำงานดีขึ้น มีหลากหลายมากกว่าแค่ดื่มชา-กินปลา
ดร.โจเซฟ ซาลฮับ แพทย์ระบบทางเดินอาหารในรัฐฟลอริดา เจ้าของช่อง TikTok @thestomachdoc ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1.7 ล้านคน มักแบ่งปันรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประทานอาหารของเขา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตามนำเอาพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ดีต่อลำไส้และตับมาใช้
ได้เปิดเผยถึงอาหารหลัก 6 อย่าง ที่ช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้แก่ อะโวคาโด น้ำมันมะกอก ปลาที่มีไขมัน ถั่ว ชาเขียว และกาแฟ
การรวบรวมตัวเลือกเพื่อสุขภาพล่าสุดของเขาเกิดขึ้นขณะที่มีการวิจัยใหม่เกี่ยวกับโรคไขมันพอกตับชนิดไม่มีแอลกอฮอล์ หรือที่เรียกกันว่า “โรคระบาดเงียบ”
ดังที่ชื่อบ่งบอก NAFLD มีลักษณะเด่นคือไขมันส่วนเกินในตับของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์น้อยหรือไม่ดื่มเล
สาเหตุหลักคือโรคอ้วน ร่วมกับปัจจัยเสี่ยงด้านการเผาผลาญ เช่น เบาหวานประเภท 2 ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น
“หากคุณมีโรคไขมันพอกตับ คุณควรปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร ร่วมกับปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต เช่น ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง มีน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ และหลีกเลี่ยงสารพิษต่อตับ เช่น แอลกอฮอล์ ” คุณหมอแนะนำ
อะโวคาโด
คุณหมอกล่าวว่า นอกเหนือจากการเป็นแหล่งไขมันและไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว อะโวคาโดยังมีวิตามินอี ซึ่งเราทราบกันดีว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบของตับ
การรับประทานอะโวคาโดวันละลูก ยังเชื่อมโยงกับคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น และการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 ในสตรี
น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกเป็นอาหารหลักของชาวเมดิเตอร์เรเนียน ที่ได้รับการยกย่องอย่างมาก และบางครั้งถึงกับเรียกว่า "ทองคำเหลว " ถือเป็นราชินีแห่งไขมัน น้ำมันมะกอกเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอื่นๆ
ประโยชน์ ที่จะได้รับจากน้ำมันมะกอกได้แก่ ความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง และบรรเทาอาการท้องผูก
ทั้งนี้ นอกจากการปรุงอาหารด้วยน้ำมันมะกอกแล้ว คุณหมอยังแนะนำให้ใช้น้ำมันมะกอกราดหน้าบนอาหารเป็นประจำอีกด้วย เขาอธิบายว่า “การรับประทานแบบนี้อาจช่วยรักษาสารประกอบที่มีประโยชน์บางอย่างในน้ำมันมะกอกไว้ได้ ซึ่งอาจสูญเสียไปหากปรุงสุก”
ปลาที่มีไขมัน
คุณหมอแนะนำให้รับประทานปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน หรือปลาเฮอริ่ง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
คำแนะนำนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Lauri Wright นักโภชนาการที่ได้รับการรับรอง และศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา ซึ่งเคยบอกกับ Fox News ว่า “ปลาแซลมอนเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับปลาที่ดีต่อสุขภาพ มีโอเมก้า 3 สูง ซึ่งช่วยบำรุงหัวใจและสมอง และยังมีโปรตีนสูงอีกด้วย”
“การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการบริโภคโอเมก้า 3 ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตโดยรวมจากโรคหัวใจ นอกจากนี้ โอเมก้า 3 ยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้เล็กน้อย และลดไตรกลีเซอไรด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ”
ถั่ว
คุณหมอแนะนำให้รับประทานถั่วต่างๆ เช่น วอลนัท พิสตาชิโอ มะม่วงหิมพานต์ และพีแคน เป็นประจำ “ถั่วเหล่านี้เป็นแหล่งไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังมีวิตามินอี ซึ่งเราทราบดีว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบของตับ”
วอลนัทมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ นักวิจัยจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการชราภาพ พบว่าอาจช่วยเพิ่มความจำใน ผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ได้ ขณะเดียวกัน มีการวิจัยเชื่อมโยงการรับประทานวอลนัทกับคุณภาพของอสุจิที่ดีขึ้นด้วย
ชาเขียว
คุณหมอกล่าวว่า คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบของชาเขียวและชาดำ ทำให้ชาทั้งสองชนิดเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับอาหารประจำวัน
ใบชาประกอบด้วยสารคาเทชิน ซึ่งเป็นโพลีฟีนอลและฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่ช่วยปกป้องเซลล์ของเราไม่ให้ถูกทำลายเมื่อเราอายุมากขึ้น
ใบชาประกอบด้วยสารคาเทชินมากกว่าอาหารและเครื่องดื่มชนิดอื่น ชาเขียวซึ่งผ่านกระบวนการแปรรูปจากใบชาสู่แก้วน้อยกว่าชาชนิดอื่น มีแนวโน้มที่จะคงไว้ซึ่งสารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านการอักเสบและปกป้องเซลล์
กาแฟ
คุณหมอดื่มกาแฟทุกวันเพื่อป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและโรคไขมันพอกตับ เขากล่าวว่า “กาแฟช่วยให้สุขภาพลำไส้ ตับ สมองดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตับ”
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปี 2022 พบว่า กาแฟกระตุ้นให้มีการหลั่งของโคลซีสโตไคนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหาร ขณะที่ในบทความปี 2021 ที่ตีพิมพ์โดยคลินิกของมหาวิทยาลัยชิคาโก นักโภชนาการแนะนำให้ดื่มกาแฟมากถึง 3 แก้วต่อวัน เพื่อปกป้องตับ