เนื้อหาในหมวด ข่าว

เมนูฮิตทั้งนั้น! เตือน 5 อาหาร \

เมนูฮิตทั้งนั้น! เตือน 5 อาหาร "ห้าม" กินตอนท้องว่าง พังกระเพาะ แถมทำให้อ้วน

เตือนแล้วนะ 5 อาหาร "ห้าม" กินตอนท้องว่าง พังกระเพาะ แถมทำให้อ้วน เมนูยอดฮิตทั้งนั้น!

เพื่อปกป้องกระเพาะอาหาร การทานอาหารให้พอดี (ประมาณ 70-80% ของความอิ่ม) จะดีกว่าการทานจนเต็มอิ่ม โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีระบบการย่อยอาหารอ่อนแอ การทานอาหารโดยไม่อิ่มเกินไปเป็นหลักการของการรับประทานอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม อาหารบางประเภทไม่ควรกินเมื่อ "ท้องว่าง” เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อลำไส้และกระเพาะอาหารกระตุ้นการระคายเคืองที่เยื่อบุในกระเพาะอาหาร หรือทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงหลังมื้ออาหาร

การทานอาหาร 5 ประเภทด้านล่างนี้ในขณะท้องว่าง ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการอ้วน แต่ยังอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบทางเดินอาหาร หรือทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้

5 ประเภทอาหารที่ไม่ควรกินเมื่อท้องว่าง

ชา, กาแฟ, แอลกอฮอล์

ดร. ฮวาง จงหยู แพทย์แผนจีนดั้งเดิม กล่าวไว้ว่า ชาหลายประเภทมีลักษณะเย็น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาอุ่นหรือเย็น ก็สามารถทำให้ของเหลวในกระเพาะอาหารเจือจาง และลดประสิทธิภาพในการย่อยอาหารได้ ในขณะเดียวกัน Theophylline (ธีโอฟิลลีน) ในชาอาจกระตุ้นกรดในกระเพาะ ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว เวียนหัว ขาอ่อนแรง และรู้สึกหิว

ส่วนกาแฟเข้มข้น สามารถทำให้กระเพาะอาหารได้รับความเสียหาย และมีผลต่อกระบวนการย่อยและดูดซึมในกระเพาะอาหาร

หากดื่มแอลกอฮอล์ขณะท้องว่าง จะถูกดูดซึมได้ง่ายจากทางเดินอาหาร ทำให้เกิดการระคายเคืองที่เยื่อบุในกระเพาะอาหารและทำให้รู้สึกไม่สบาย กระทั่งอาจทำให้เกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ เวียนหัว หัวใจเต้นเร็ว และเหงื่อออกเย็น ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้หมดสติ ช็อก หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

นมถั่วเหลือง, ชีส, เครื่องดื่มที่มีแก๊ส

นมถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง ถ้าทานอาหารที่มีแป้งก่อนแล้วค่อยดื่มนมถั่วเหลือง จะสามารถถูกใช้เป็นพลังงานได้ดีและยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การดื่มนมถั่วเหลืองเมื่อท้องว่าง อาจทำให้โปรตีนในนมไม่ได้ถูกดูดซึมอย่างเต็มที่ และอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลทางโภชนาการในร่างกาย รวมถึงเพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินปัสสาวะ

แม้ว่าชีสจะมีแบคทีเรียกรดแลคติก ซึ่งดีต่อระบบทางเดินอาหาร แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายในทางเดินอาหารสำหรับผู้ที่ไม่สามารถย่อยแลคโตสได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงในขณะท้องว่าง

เครื่องดื่มที่มีแก๊ส มีกรดซิตริกสูง ซึ่งสามารถเร่งกระบวนการเผาผลาญแคลเซียมได้ การดื่มเครื่องดื่มที่มีแก๊สเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการขาดแคลเซียม เครื่องดื่มเย็นอาจกระตุ้นทางเดินอาหาร และทำให้เกิดอาการบีบรัดในกระเพาะอาหาร ส่งผลให้เกิดโรคในทางเดินอาหาร

อาหารฤทธิ์เย็น, ผลไม้ที่มีเพคตินและแทนนินสูง

ผลไม้บางชนิดที่มีเพคตินและแทนนินสูง เช่น มะเดื่อ มะเขือเทศ ส้ม ฯลฯ สามารถเกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับกรดในกระเพาะอาหาร และอาจก่อตัวเป็นนิ่วในกระเพาะอาหาร ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมื่อท้องว่าง

หลายคนชอบทานกล้วยในมื้อเช้า แต่กล้วยเป็นผลไม้ที่มีความเย็นและอาจทำให้ท้องอืด ท้องเสีย หรือปวดท้องได้หากรับประทานตอนท้องว่าง ผลไม้ฤทธิ์เย็นชนิดอื่นๆ ได้แก่ แตงโม ลูกแพร์ ฯลฯ ควรหลีกเลี่ยงการทานมากเกินไปในตอนท้องว่างเพราะอาจทำให้ย่อยยากและทำให้ผู้ที่มักเป็นหวัดหรือท้องเสียรู้สึกไม่สบาย

อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง

งานวิจัยบางชิ้นได้แสดงให้เห็นว่า การรับประทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูงในขณะท้องว่าง เช่น ข้าวขาว ข้าวเหนียว หรือขนมปังขาว จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้หิวเร็วและกระตุ้นความอยากอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญอาหารและสร้างไขมัน

น้ำผัก, น้ำมะนาว

น้ำผักสกัดแบบสดๆ มักมีส่วนผสมที่มีความเย็นสูง การดื่มเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการเย็นที่กระเพาะอาหาร และในกรณีรุนแรงอาจทำให้เกิดการอักเสบในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่มากเกินไปต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร

และไม่ควรดื่มน้ำมะนาวเมื่อท้องว่างเช่นกัน เนื่องจากกรดซิตริกในน้ำมะนาว จะกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร หากระบบการทำงานของกระเพาะอาหารไม่ดี อาจส่งผลกระทบต่อกระเพาะและลำไส้ได้

 

 

เพิ่งจะรู้! หมอเตือน 2 มื้อเช้า \

เพิ่งจะรู้! หมอเตือน 2 มื้อเช้า "ห้ามกิน" ถ้าไม่อยากง่วง คนเข้าใจผิดๆ คิดว่าทำให้ตาสว่าง

2 อาหารเช้าที่ "ไม่ควรกิน" ถ้าไม่อยากรู้สึกง่วง คำแนะนำที่จริงใจ จากแพทย์ด้านการนอนหลับโดยเฉพาะ!

กูรูเมืองนอก เผย 3 อาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ไม่ใช่ \

กูรูเมืองนอก เผย 3 อาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ไม่ใช่ "ไข่" อย่างที่หลายคนคิด

3 อาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แท้จริงแล้วไม่ใช่ "ไข่" อย่างที่หลายคนคิด

อายุ 60 ปีขึ้นไป ควรกินอาหารเช้าเวลาไหนดีที่สุด? ไม่ใช่ 7 โมงเช้าอย่างที่หลายคนคิด

อายุ 60 ปีขึ้นไป ควรกินอาหารเช้าเวลาไหนดีที่สุด? ไม่ใช่ 7 โมงเช้าอย่างที่หลายคนคิด

หลังอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรกินอะไรเป็น "อาหารเช้า" และกินเวลาไหนดีที่สุด? ไม่ใช่ 7 โมงเช้า อย่างที่หลายคนคิด

รุมสวดยับ \

รุมสวดยับ "ข้าวผสม" สูตรมื้อเช้าง่ายๆ ของแม่ เห็นลูกชายกินอร่อย คนดูรู้สึกแย่กว่าเดิม!

แม่ทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ เสร็จใน 15 นาที แถมลูกชายกินเอร็ดอร่อย แต่โดนวิจารณ์หนัก สไตล์ลวกๆ ผสมรวมในหม้อเดียว!