(4).jpg)
เปิดผลวิจัย ม.ดัง อาหารเช้าสำคัญอย่างไร? "คนอายุยืน" จะไม่ค่อยกิน 3 เมนูนี้
ผลวิจัย ม.ดัง เผย มื้อเช้าสัมพันธ์กับอายุขัย "ผู้ที่มีอายุยืน" มักไม่ทานอาหาร 3 อย่างนี้ในมื้อเช้า
มื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุดในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ช่วยเริ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานและเผาผลาญแคลอรี่ แต่ยังให้พลังงานที่จำเป็นในการทำงานต่างๆ ด้วย หลายหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการทานมื้อเช้ากับสุขภาพของร่างกาย
ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัย Erlangen ในประเทศเยอรมนี พบว่า ผู้ที่ไม่ให้ความสำคัญกับมื้อเช้ามีอายุขัยเฉลี่ยสั้นกว่าผู้ที่ทานมื้อเช้า 2.5 ปี ซึ่งสามารถสะท้อนผลกระทบทางด้านร่างกายที่สำคัญ ดังนี้
ถุงน้ำดีเป็นที่เก็บน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร การทานอาหารครบ 3 มื้อในแต่ละวันจะช่วยให้น้ำดีถูกขับออกอย่างสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่ว แต่หากมีการข้ามมื้ออาหารบ่อยๆ โดยเฉพาะมื้อเช้า น้ำดีจะไม่มีอาหารให้ย่อย และน้ำดีจะค้างอยู่ในถุงน้ำดีนานขึ้น คอเลสเตอรอลในน้ำดีจะมีความเข้มข้นสูงขึ้น ทำให้เกิดการตกตะกอนและก่อตัวเป็นผลึกได้ง่าย เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
การข้ามมื้อเช้าอาจนำไปสู่ปัจจัยเสี่ยงหลายประการเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ น้ำตาลในเลือดสูง และอาการเมตาบอลิกซินโดรม การศึกษาจากมหาวิทยาลัย Nottingham ในอังกฤษพบว่า การข้ามมื้อเช้าจะทำให้คอเลสเตอรอลไม่ดี (คอเลสเตอรอลชนิด Low-Density Lipoprotein) เพิ่มขึ้นชั่วคราว ลดความไวของอินซูลิน และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและเบาหวาน
ผลวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารของสถาบันโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ไม่ทานมื้อเช้ามีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าผู้ที่ทานมื้อเช้าถึง 87% และมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆ สูงขึ้นประมาณ 19%
หากมีการข้ามมื้อเช้า กระเพาะอาหารจะไม่มีอาหารให้ย่อย ส่งผลให้น้ำย่อยและเอนไซม์ในกระเพาะอาหารไปทำลายเยื่อบุกระเพาะและเยื่อบุลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารค่อยๆ ถูกกัดกร่อน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปนานๆ จะทำให้การหลั่งสารเมือกของเซลล์ผิดปกติ ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ เช่น การอักเสบในกระเพาะอาหารและแผลในกระเพาะอาหาร
การทานอาหารครบสามมื้อในเวลาที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ใหญ่ ทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นปกติ แต่หากการทานอาหารไม่เป็นเวลา การข้ามมื้อเช้าติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารผิดปกติ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ไม่ปกติ และเกิดอาการท้องผูก
อาหารที่ไม่ควรทานในมื้อเช้า
น้ำผลไม้: ผลวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 2019 วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมกว่า 190,000 คน พบว่า การดื่มน้ำผลไม้ครึ่งแก้วเพิ่มขึ้นในแต่ละวันสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ถึง 16% ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์
เบคอนและเนื้อแปรรูป: ผลวิจัยปี 2019 พบว่าเนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอกหรือเบคอน อันตรายต่อสุขภาพมากกว่าเนื้อแดง โดยการทานเนื้อแปรรูป 25 กรัม (เทียบเท่ากับเบคอนหนึ่งชิ้นบางๆ) สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึง 20% และมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดทั้งในผู้ชายและผู้หญิงในแอฟริกาใต้
กาแฟดำและเครื่องดื่มเย็น: การดื่มกาแฟดำเข้มข้นก่อนมื้อเช้าสามารถส่งผลเสียต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคหัวใจ คาเฟอีนในกาแฟสามารถกระทบต่อวิธีที่ร่างกายจัดการกับอินซูลินและกลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วลดลงทันที
นอกจากนี้ เครื่องดื่มเย็นบางชนิดที่ขายในท้องตลาดยังอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง, เป็นตะคริวในระบบทางเดินอาหาร และท้องเสีย หากอาการเหล่านี้ยืดเยื้อ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารก็อาจตามมา