.jpg)
ใครตรวจก็เจอ! พี่น้อง 3 คน เป็นมะเร็ง "ชนิดเดียวกัน" แพทย์ระบุสาเหตุชัดแล้ว อาหารเกี่ยวไหม?
ใครตรวจก็เจอ! มีพี่น้อง 3 คน หมอพบเป็นมะเร็งชนิดเดียวกัน เผยแล้วสาเหตุคืออะไร?!
อาจารย์แพทย์เหงียน ดุย อันห์ แชร์ประสบการณ์ระหว่างที่ทำงานอยู่ในศูนย์มะเร็งวิทยาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โรงพยาบาลบั๊กมาย แพทย์ศูนย์มะเร็งวิทยา รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์นานาชาติ ประเทศเวียดนาม ซึ่งครั้งหนึ่งได้พบกับกรณีที่ครอบครัวหนึ่งมีพี่น้อง 3 คน และทั้งหมดเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
ผู้ป่วยรายแรกในครอบครัวที่ได้รับการวินิจฉัย คือผู้ป่วยหญิงอายุเกือบ 50 ปี เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 3 ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดและให้เคมีบำบัดเสริม หลังจากนั้นโรคก็ทรงตัวมาหลายปี อย่างไรก็ตาม ในภายหลังมะเร็งกลับมาเป็นซ้ำและแพร่กระจายจนลุกลามเป็นระยะที่ 4
ขณะที่คนไข้หญิงกำลังรับการรักษา พี่ชายคนที่สองของเธอพบว่ามีอาการอุจจาระเป็นเลือด เธอจึงแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด ผลสรุปว่าเขาเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะลุกลามด้วย
“เมื่อพบว่าน้องทั้งสองคนเป็นมะเร็ง พี่ชายคนโตแม้จะไม่แสดงอาการใดๆ แต่ก็รู้สึกกังวลและรีบไปตรวจคัดกรอง ผลการตรวจพบว่าพี่ชายคนโตมีติ่งเนื้อจำนวนมาก ครอบคลุมเกือบทั้งลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยจึงได้ผ่าตัดเอาติ่งเนื้อออก และผลการตรวจทางพยาธิวิทยาพบว่า ติ่งเนื้อเหล่านี้เป็นเซลล์มะเร็งชนิด” คุณหมอเล่า
ตามที่คุณหมอได้กล่าวไว้ เมื่อถอดรหัสยีนของผู้ป่วยทั้ง 3 รายข้างต้น ได้ค้นพบว่าสาเหตุของโรคมะเร็งคือโรคลินช์ (Lynch Syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบถ่ายทอดทางยีนเด่น ซึ่งหมายความว่า หากพ่อแม่มียีนกลายพันธุ์ ลูกจะมีโอกาสถ่ายทอดโรคนี้ถึงร้อยละ 50
อย่างไรก็ตาม คุณหมอกล่าวเสริมว่า “ไม่ใช่ทุกกรณีที่ยีนกลายพันธุ์จะพัฒนาเป็นมะเร็ง หากคุณรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ และมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งก็จะลดลง”
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ตามที่ ดร. ดุย อันห์ กล่าวไว้ ปัจจัยบางประการที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่ อายุที่มากขึ้น, ปัจจัยทางพันธุกรรม, ผู้ที่มีโรคลำไส้เรื้อรังและมีติ่งเนื้อ รวมทั้งยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านเชื้อชาติ หรือผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน
คุณหมอกล่าวว่า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับอาหารและวิถีชีวิต เช่น การกินเนื้อแดงมากเกินไป การรับประทานอาหารจานด่วน การมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน การขี้เกียจออกกำลังกาย นอกจากนี้ พฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ก็มีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เช่นกัน
ดังนั้น เพื่อป้องกันโรคมะเร็ง เราจำเป็นต้องจำกัดปัจจัยเสี่ยง ด้วยการสร้างอาหารที่ถูกต้อง การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี การควบคุมน้ำหนัก และอย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปี
- ป่วยสโตรกทั้งบ้าน ลูกอายุน้อยได้ความดันแถม เตือนอย่าใช้ "น้ำมันปรุงอาหาร" แบบนี้!!!
- อ่านไม่ผิด! วิจัยใหม่ย้ำ "มะม่วงสุก" คุมน้ำตาล-ต้านเบาหวาน-ดีต่อหัวใจ ต้องกินแบบใด?