.jpg)
ดื่มทุกวันแต่ไม่รู้... กูรูเตือนน้ำ 1 ชนิด คนแถบอายุยืนที่สุดในโลก "ไม่แตะเลย!"
ผู้เชี่ยวชาญชี้ คนอายุยืนทั่วโลก 'ไม่เคยแตะ' น้ำอัดลม – เตือนเสี่ยงโรคร้าย ทำลายสุขภาพแบบไม่รู้ตัว
“Dan Buettner” ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุยืน ได้ออกมาเตือนอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่เขายืนยันว่า กลุ่มผู้ที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลก "ไม่เคยบริโภค" อ้างอิงจากวิถีชีวิตของผู้คนในแถบ Blue Zones ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอายุเกิน 100 ปีเป็นจำนวนมากและมีอัตราการเกิดโรคเรื้อรังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก
พื้นที่ Blue Zones ประกอบด้วยหลายภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ จังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น, จังหวัดนูโอโร ในซาร์ดิเนียประเทศอิตาลี, คาบสมุทรนิโคยา ประเทศคอสตาริกา และเกาะอิคาเรีย ประเทศกรีซ ซึ่งล้วนแต่มีจุดร่วมคือวิถีชีวิตที่เน้นอาหารจากพืช ผัก ธัญพืช และไขมันดี ลดการบริโภคน้ำตาลและอาหารแปรรูป
Dan Buettner ผู้ก่อตั้งโครงการ Blue Zones เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ bluezones.com ว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญของสุขภาพยืนยาวที่มักถูกมองข้ามคือ "เครื่องดื่ม" โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งคือ "น้ำอัดลม" รวมถึงน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล (ไดเอ็ต) ด้วยเช่นเดียวกัน
"ดื่มกาแฟตอนเช้า ชาในช่วงบ่าย ไวน์ตอนห้าโมงเย็น และน้ำเปล่าตลอดทั้งวัน ห้ามดื่มน้ำอัดลมทุกชนิด" เขากล่าวอย่างชัดเจน
และยังเสริมด้วยว่า ผู้คนใน Blue Zones ดื่มเพียงแค่น้ำเปล่า กาแฟ ชา และไวน์ในปริมาณพอเหมาะ ในขณะที่ "น้ำอัดลม" นั้นแทบไม่เป็นที่รู้จักในวิถีชีวิตของผู้คนที่อายุร้อยปีเหล่านี้ โดยเฉพาะในรูปแบบของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลแฝงสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวาน ภาวะมีบุตรยาก และการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
"ในขณะที่ชาวอเมริกันบริโภคน้ำตาลส่วนใหญ่จากน้ำอัดลม ชาวบลูโซนกลับบริโภคน้ำตาลจากธรรมชาติในปริมาณใกล้เคียงกัน แต่แทบไม่มีน้ำตาลเติมแต่งเลย" เขาระบุ
หากอยากใช้วิถีชีวิตอ้างอิงตามเคล็ดลับการดื่มแบบคนอายุยืนจาก Blue Zones แนะนำว่าควรทำดังนี้
- พกขวดน้ำไว้ที่โต๊ะทำงานและข้างเตียงเสมอ
- เริ่มต้นวันด้วยกาแฟดำแบบไม่ใส่ครีมหรือใส่น้ำตาลเพียงเล็กน้อย หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลังช่วงบ่าย เพราะคาเฟอีนอาจรบกวนการนอน (คนใน Blue Zones มักนอนเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อคืน)
- ดื่มชาเขียวตลอดทั้งวัน ซึ่งมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟถึง 75% และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หรือลองดื่มชาสมุนไพร เช่นโรสแมรี่ ออริกาโน หรือเซจ และเติมความหวานของชาด้วยน้ำผึ้งเล็กน้อย และเก็บไว้ในเหยือกในตู้เย็นเพื่อดื่มระหว่างวัน
- ที่สำคัญที่สุดคือ "ห้าม" นำน้ำอัดลมเข้าบ้านเด็ดขาด
ข้อมูลของเขาสอดคล้องกับนักวิจัยของฮาร์วาร์ด พบว่าประมาณ 50% ของแคลอรี่ส่วนเกินในสหรัฐฯ มาจากน้ำตาลเหลวที่อยู่ในน้ำอัดลมและน้ำผลไม้กล่อง โดยเขายกตัวอย่างว่า "คุณคงไม่เคยใส่น้ำตาล 10 ช้อนชาลงในซีเรียลของคุณใช่ไหม? แต่เท่ากับว่าคุณได้รับน้ำตาลในปริมาณเท่านี้เมื่อดื่มน้ำอัดลมกระป๋องขนาด 12 ออนซ์"