.jpg)
หนุ่มอายุน้อย ป่วยมะเร็งทวารหนัก แพทย์เตือน 5 นิสัยดูไม่อันตราย แต่กำลัง “กัดกร่อน” ลำไส้!
เตือนภัย! 5 พฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่กำลัง “ทำลาย” ลำไส้ของคุณ และอาจนำไปสู่มะเร็งลำไส้ใหญ่
หลายคนเชื่อว่าการทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือการขาดไฟเบอร์ในอาหารเท่านั้น ที่เป็นสาเหตุของปัญหาลำไส้และมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ในความเป็นจริงยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ที่อาจกลายเป็น “ตัวการ” ที่ทำลายสุขภาพลำไส้โดยไม่รู้ตัว
ดังเช่นกรณีเมื่อไม่นานมานี้ ชายหนุ่มวัย 28 ปี ชื่อ “เจียง” นักโปรแกรมเมอร์จากมณฑลซานตง ประเทศจีน ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งทวารหนักและลำไส้ใหญ่ ระยะที่ 2 หลังจากที่เขาประสบกับอาการปวดท้องเรื้อรัง และท้องเสียบ่อยครั้ง แต่เขาคิดว่าเป็นเพียงการรบกวนการย่อยอาหารเท่านั้น จึงไม่ได้ไปพบแพทย์ กระทั่งเมื่อพบเลือดในอุจจาระก็ยังไม่สนใจ จนท้ายที่สุดเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงในระหว่างการทำงาน จนต้องไปโรงพยาบาล
หลังจากที่แพทย์ได้รับฟังกรณีของเขา แพทย์ได้เตือนถึง 5 พฤติกรรมที่หลายคนมองข้าม แต่กลับส่งผลกระทบต่อสุขภาพลำไส้ และเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ ดังนี้
1. ทานอาหารที่มีไขมันสูง
หลายคนโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่มีชีวิตที่เร่งรีบ มักจะเลือกทานอาหารจานด่วนที่มักมีไขมันสูง โดยเฉพาะอาหารทอด การทานอาหารที่มีไขมันสูงจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น เนื่องจากลำไส้ต้องใช้เวลามากขึ้นในการย่อยไขมันที่มีในอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบในลำไส้และทำให้เยื่อบุลำไส้ถูกทำลาย การสะสมของไขมันในลำไส้สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ในระยะยาว
2. นั่งนานและขาดการออกกำลังกาย
การนั่งอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่ขยับตัวทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง อาหารที่ย่อยแล้วจะค้างอยู่ในลำไส้นานขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดสารพิษสะสมในลำไส้ สิ่งนี้ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. ความเครียดสะสม
การทำงานภายใต้ความกดดันหรือการทำงานล่วงเวลามักทำให้เกิดความเครียด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของระบบย่อยอาหาร เมื่อเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนบางตัวที่มีผลต่อการทำงานของลำไส้ ทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการสะสมของกรดและสารอักเสบที่สามารถกระตุ้นให้เซลล์ในลำไส้กลายเป็นเซลล์ผิดปกติในที่สุด
4. การใช้ยาหรือการล้างลำไส้บ่อยเกินไป
บางคนมีพฤติกรรมการทานยาที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายหรือการล้างลำไส้เพื่อล้างสารพิษ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพลำไส้ เนื่องจากการใช้ยาหรือวิธีการเหล่านี้บ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของจุลชีพในลำไส้ และทำให้เยื่อบุลำไส้ถูกทำลาย การล้างลำไส้มากเกินไปยังสามารถทำให้เซลล์ในลำไส้ผิดปกติ จนส่งผลให้เกิดมะเร็งได้หากทำเป็นประจำ
5. นอนดึกและนอนไม่เพียงพอ
การนอนดึกและขาดการนอนหลับที่เพียงพอทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ในช่วงเวลานอน ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้และส่งผลให้เซลล์ผิดปกติเติบโตได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การนอนดึกยังทำให้เกิดความเครียดสะสม ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
พฤติกรรมเหล่านี้ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด ล้วนดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของเรา แต่เมื่อสะสมไปนานๆ อาจเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคร้ายที่ไม่สามารถมองข้ามได้ หากคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ควรเริ่มปรับเปลี่ยนเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยเร็ว
- กูรูสหรัฐฯ พูดชัด 1 อาหารที่ "ไม่มีวันกิน!!!" เพราะแบคทีเรียเยอะมาก แต่คนไทยยังกินอยู่
- ชายไม่ดื่ม-ไม่สูบ นอนตัวเหลืองรอ "เปลี่ยนตับ" หมอชี้ต้นเหตุ "น้ำโปรด" ที่ไม่ใช่เหล้าเบียร์!