.jpg)
แม่เก่งที่สุด! ลูกปรับทุกข์ "หนูโดนบูลลี่" ตอบแค่ 4 คำชิลๆ คนฟังฉุกคิด ไม่อายตัวเองอีกเลย
แม่สายอิสระ! ลูกสาววัยรุ่นปรับทุกข์ "โดยวิจารณ์รูปลักษณ์" ฟังแล้วตอบแค่ 4 คำชิลๆ แต่กลับเยียวยาได้ทุกอย่าง
ประเด็นพูดคุยที่ถูกเปิดขึ้นมาบนโซเชียลมีเดียของจีน โดยใช้หัวข้อว่า “ถ้าคุณจะเขียนบันทึกชีวประวัติของแม่ คุณจะเล่าเรื่องไหน?” ท่ามกลางเรื่องราวซึ้งใจนับพันเรื่อง มีเรื่องหนึ่งที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมาย เพราะพูดถึง “คุณแม่ที่ไม่เคยจำกัดกรอบลูก” ทั้งในความคิด ชีวิต และแม้แต่เรื่องร่างกาย
เรื่องเล่านี้มาจากหญิงสาวคนหนึ่งที่บอกว่า แม่ของเธอ “เก่งที่สุด” ไม่ใช่เพราะเข้มงวดหรือเคร่งครัด แต่เพราะแม่เลือกที่จะไม่วางกรอบ ไม่ตีกรอบความเป็นแม่ และไม่ตีกรอบลูกให้เดินตาม “ทางที่ควรจะเป็น” แบบที่คนอื่นมักคาดหวัง ครั้งหนึ่งเมื่อเธอกำลังอยู่ในวัยเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง เด็กบางคนเริ่มมีเสียงซุบซิบ ล้อเลียน และชี้ชวนกันวิจารณ์รูปลักษณ์ของเธอ
เมื่อนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกับแม่ แทนที่ผู้เป็นแม่จะบอกให้ลูก “อดทน” หรือ “เมินเฉย” แม่กลับพูดเพียง 4 คำว่า “เรื่องธรรมดา” คำพูดแสนเรียบง่ายนี้ กลายเป็นคาถาที่ติดอยู่ในใจเธอตลอดชีวิต เพราะแม่ไม่ทำให้เรื่อง “ร่างกายมนุษย์” กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือน่าอาย
ตั้งแต่เด็ก แม่เปิดโอกาสให้เธอเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายอย่างตรงไปตรงมา แม้แต่ตอนดูหนังที่มีฉากผู้หญิงวาบหวิวในชั้นประถม แม่ก็ไม่ได้ห้ามหรือบอกให้เธอปิดตา แต่กลับพูดว่า “นี่คือความงามของมนุษย์” สิ่งนี้หล่อหลอมให้เธอเติบโตมาโดยไม่มีความรู้สึกละอายกับรูปร่างของตัวเอง “ฉันไม่เคยก้มหน้า ไม่เคยหลบสายตาใคร เพราะร่างกายคือสิ่งธรรมดา คือสิ่งที่ควรภาคภูมิใจ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องอาย”
- ฮาร์วาร์ดเผย 3 นิสัย(ดูเหมือน)แย่ แต่พิสูจน์ได้ว่า "เด็กฉลาด" ผปค.ควรรู้ ไม่ขวางเฉิดฉาย!
- รวมวิจัยมหาลัยดัง พ่อแม่ที่ทำงาน 3 อาชีพนี้ มีโอกาสเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ "มากกว่า"
ผู้โพสต์ยังเล่าถึงประเด็น "อิสระในการเล่นเกม แต่ไม่เคยติดเกม – เมื่อแม่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก" โดยบอกว่าแม้ว่าแม่ของเธอจะให้ลูกเล่นเกมตั้งแต่ประถม แต่สิ่งที่ต่างคือ “เงื่อนไขและความไว้วางใจ” โดยซื้อเครื่องเล่นเกมใหม่ให้ช่วงปิดเทอม พร้อมข้อตกลงว่า “ทำการบ้านเสร็จก่อนแล้วค่อยเล่น”
อีกทั้งพ่อแม่ยังพาไปเล่นร้านเกม แต่เลือกเวลาและสถานที่ที่ปลอดภัย และหลังสอบเข้ามหาวิทยาลัย แม่ถึงกับเติมเงินให้เธอเล่นเกมออนไลน์ เพื่อให้ได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ “เพราะฉันเคยได้เล่นเกมดี ๆ ตั้งแต่เด็ก ฉันจึงไม่เคยติดเกม ฉันเล่นเมื่ออยากพัก ไม่เคยเอาเกมมาเป็นที่หลบหนีชีวิต”
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าประทับใจคือการ "เปิดโลกหนังสือแบบไม่จำกัด – แม่ให้เสรีภาพ แล้วลูกเลือกทางเอง" โดยเธอเล่าว่า แม่ไม่เคยห้ามลูกอ่านนิยายรักหรือนิยายวัยรุ่น แม้สังคมจะมองว่าเป็น “หนังสือไร้สาระ” แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ลูกสาวคนนี้กลับเบื่อแนวนิยายรักเร็วมาก แล้วหันมาอ่านวรรณกรรมคลาสสิก วรรณกรรมจริงจัง และแม้แต่หนังสือโบราณ
โดยแม่ไม่เคยกำหนดให้ลูกอ่านเฉพาะหนังสือเรียนหรือหนังสือ “มีประโยชน์” แต่เปิดตู้หนังสือแล้วบอกว่า “อยากอ่านอะไรก็อ่านเถอะ” ท้ายที่สุด เธอเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม แต่กลับตัดสินใจเรียนควบคู่วรรณคดีจีน ที่มหาวิทยาลัยประชาชนจีน กลายเป็นนักศึกษาคนแรกของคณะ ที่เลือกเรียนสายวิทย์ควบวรรณกรรม
“แม่ไม่เคยสอนฉันให้ ‘เป็นแบบใคร’ แต่แม่ทำให้ฉันกล้าเป็นตัวเอง และภูมิใจกับมัน” ผู้โพสต์กล่า่ว โดยปัจจุบันเธอทำงานเป็นนักเขียนและนักแปล และตัดสินใจได้แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตผ่านโซเชียลมีเดียให้ทุกคนได้รับรู้
ท้ายที่สุดจะเห็นว่า แม่ไม่ได้สอนแบบตำรา แต่ทุกสิ่งคือของขวัญจากการ "ไม่วางกรอบ" การเลี้ยงลูกของคุณแม่ในเรื่องนี้ไม่ได้มาจากตำราเล่มไหน ไม่ใช่การฝืนให้ลูก “เข้มแข็ง” หรือ “เป็นเด็กดีในสายตาผู้ใหญ่” แต่คือการยอมรับในตัวตนของลูก และเชื่อว่าลูกมีศักยภาพในการเลือกเส้นทางของตัวเอง เปิดโอกาสให้เล่นเกม แต่ปลูกฝังการจัดลำดับความสำคัญ รวมทั้งปล่อยให้ลูกอ่านนิยายรัก แต่ให้เวลาจนลูกตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะกับตน ที่สำคัญคือไม่ตีกรอบเรื่องรูปร่างและร่างกาย แต่สอนให้เห็นว่า “ความเป็นมนุษย์” เป็นสิ่งที่งดงาม
เรื่องราวของแม่ลูกคู่นี้คือบทเรียนสำคัญสำหรับสังคมยุคใหม่ ว่าการเลี้ยงลูกไม่จำเป็นต้องเข้มงวด ไม่จำเป็นต้องห้ามทุกอย่าง หรือบังคับให้ลูกอยู่ในกรอบสำเร็จรูป หากเราเชื่อมั่นในลูก ให้โอกาส และให้เกียรติลูกในแบบที่เขาเป็น นั่นแหละคือของขวัญอันล้ำค่า ที่เปลี่ยนชีวิตเขาได้ทั้งชีวิต