เนื้อหาในหมวด ข่าว

4 พฤติกรรม ที่ผู้ใหญ่ดุว่า \

4 พฤติกรรม ที่ผู้ใหญ่ดุว่า "เด็กไม่ดี" แท้จริงช่วยสมองพัฒนาไว แต่หลายบ้านกลับสั่งห้ามทำ!

4 พฤติกรรม ที่ผู้ใหญ่มักดุว่า “เด็กไม่เรียบร้อย” แต่จริงๆ คือสัญญาณบ่งบอกว่า สมองกำลังพัฒนาได้ดีมาก!

ทุกพฤติกรรมและนิสัยของเด็กแต่ละคนสะท้อนถึงบุคลิกและความเป็นตัวเองที่ไม่เหมือนใคร เด็กแต่ละคนมีบุคลิกเฉพาะตัว มีจังหวะการเติบโตที่แตกต่าง ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ ความคิด และการสื่อสาร ที่สำคัญไม่มีสูตรสำเร็จเดียวที่ใช้ได้กับทุกคน บางคนอาจเดินก่อนพูด ในขณะที่บางคนพูดเก่งแต่ยังไม่อยากเดิน

พ่อแม่และผู้ปกครองควรเข้าใจว่า การพัฒนาของเด็กไม่ใช่การแข่งขัน แต่เป็นบทเพลงอันลงตัวที่ต้องการความรักและความอดทนอย่างสูง วันนี้เราจะพาไปรู้จัก 4 พฤติกรรมของเด็ก ที่ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่มองว่า “ไม่ดี” แต่แท้จริงแล้วเป็นสัญญาณว่าลูกของคุณกำลังพัฒนาสมองอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะทุกพฤติกรรมของลูก มีความหมายมากกว่าที่คิด!

1. เด็กชอบตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้น

เด็กบางคนชอบตะโกนหรือส่งเสียงดัง ซึ่งผู้ใหญ่หลายคนมักเข้าใจว่าเป็นพฤติกรรมส่งเสียงรบกวน จึงพยายามห้ามหรือจำกัดเด็กไว้ แต่จริงๆ แล้ว การตะโกนเสียงดังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเด็กกำลังพัฒนาด้านอารมณ์และการสื่อสารอย่างดี

  • พัฒนาด้านอารมณ์: เด็กได้เรียนรู้วิธีแสดงความรู้สึก เช่น ความดีใจ ความตื่นเต้น ซึ่งสำคัญกับการพัฒนาสมองด้านอารมณ์

  • ฝึกการใช้เสียงและลมหายใจ: การตะโกนช่วยให้เด็กฝึกควบคุมลมหายใจ และรู้จักเสียงของตัวเอง

  • ปลดปล่อยพลังงาน: โดยเฉพาะเด็กที่มีพลังงานเยอะ การตะโกนเป็นวิธีระบายและออกกำลังกายธรรมชาติ

  • สิทธิ์ในการแสดงออก: เด็กไม่ควรถูกกดดันให้เก็บอารมณ์เหมือนผู้ใหญ่ เพราะการแสดงออกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพัฒนาการ

2. เด็กชอบอมมือ

พฤติกรรมอมมือในเด็กเล็กโดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เป็นเรื่องปกติและไม่ต้องกังวลถ้าไม่ได้ทำร้ายผิวหนังหรือทำให้เกิดปัญหาใดๆ

  • ช่วงฟันขึ้น: เด็กอมมือเพื่อลดอาการคันเหงือกขณะฟันขึ้น

  • สัญชาตญาณธรรมชาติ: เด็กมีการอมมือเป็นสัญชาตญาณตั้งแต่ในท้องแม่ เพื่อช่วยปลอบตัวเอง

  • ช่วยคลายเครียด: เมื่อเด็กเหนื่อยหรือเครียด มักอมมือเพื่อให้รู้สึกสบายใจขึ้น

  • การสำรวจโลก: เด็กใช้ปากเป็นเหมือน “มือที่สาม” เพื่อสัมผัสและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

  • เด็กที่อมมือบ่อยๆ มักมีความฉลาดทางอารมณ์สูง

3. เด็กชอบเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่

การเลียนแบบเป็นหนึ่งในวิธีการเรียนรู้สำคัญของเด็กวัย 0-6 ปี เด็กจะจดจำและซึมซับภาษา ท่าทาง และวิธีปฏิบัติตนจากคนรอบข้างผ่านการเลียนแบบ

  • พัฒนาสมอง: เด็กเรียนรู้คำศัพท์ พฤติกรรมทางสังคม และทักษะชีวิตผ่านการเลียนแบบ

  • ฝึกพูดและสื่อสาร: การเลียนแบบเสียงและน้ำเสียงช่วยให้เด็กฝึกพูดได้ดีขึ้น

  • เรียนรู้สังคม: เด็กเลียนแบบการทักทาย การขอโทษ หรือแบ่งปันเพื่อสร้างทักษะทางสังคม

  • พัฒนาการเคลื่อนไหว: เลียนแบบการเดิน การจับสิ่งของ ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่

  • เสริมการสังเกตและความจำ: การเลียนแบบช่วยฝึกสมาธิและความแม่นยำในการจำ

4. เด็กชอบขว้างของและฉีกกระดาษ

แม้จะทำให้พ่อแม่หลายคนปวดหัว แต่พฤติกรรมขว้างของและฉีกกระดาษเป็นธรรมชาติและจำเป็นสำหรับเด็กวัย 1-3 ปี ในการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหว

  • เรียนรู้เหตุและผล: เด็กจะเข้าใจว่าการขว้างทำให้เกิดเสียงหรือสิ่งของตกลงพื้นได้

  • พัฒนากล้ามเนื้อ: ขว้างของช่วยเสริมกล้ามเนื้อมัดใหญ่และประสานงานมือกับตา ส่วนฉีกกระดาษช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก

  • ฝึกคิดเชิงสำรวจ: เด็กจะทดลองและตั้งคำถาม “ถ้าทำแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้น?”

  • ระบายอารมณ์: การขว้างและฉีกช่วยให้เด็กคลายเครียดและผ่อนคลาย

  • พัฒนาความตั้งใจ: เด็กมักจะมีสมาธิและสนใจในกิจกรรมนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการมีสมาธิในอนาคต

พฤติกรรมเหล่านี้แม้จะดูเหมือน “ซน” หรือ “ไม่เรียบร้อย” แต่แท้จริงแล้วเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็กกำลังเติบโตและพัฒนาสมองได้อย่างสมบูรณ์แบบ พ่อแม่ควรให้ความรัก ความเข้าใจ และความอดทน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่ดีที่สุดของลูกในแต่ละช่วงวัย

 

 

อย่าพึ่งจ่ายเพิ่ม! นักวิทย์ดังชี้ กิจกรรมที่ \

อย่าพึ่งจ่ายเพิ่ม! นักวิทย์ดังชี้ กิจกรรมที่ "ไม่เสียเงิน" แต่พัฒนาสมองดีที่สุด เสริม IQ ได้ผลจริง

อย่า! เอาแต่ส่งลูกเรียนเพิ่ม IQ วิทยาศาสตร์ชี้ “กิจกรรมฟรีนี้” ช่วยแฮ็คสมองได้ พ่อแม่ควรรู้

เพิ่งเคยได้ยิน! ครูชี้ ไม่ใช่การดูดวง แต่ดู \

เพิ่งเคยได้ยิน! ครูชี้ ไม่ใช่การดูดวง แต่ดู "ทรงผม" ของนักเรียน ก็รู้ได้อนาคตจะสุขหรือทุกข์?

ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ ครูประสบการณ์ 25 ปี เผยความลับ “ดูผมเด็กหญิง” รู้อนาคตชีวิตได้ทันที