
ทำเองได้ 3 วิธีง่ายๆ "ล้างพิษตับ" ดีท็อกซ์ร่างกาย แบบไม่ต้องพึ่งยา ไม่เสียเงินแพง!
3 วิธีง่ายๆ ในการล้างพิษตับและดีท็อกซ์ร่างกาย เสริมสุขภาพให้แข็งแรง
การดูแลสุขภาพตับ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการป้องกันโรคร้ายแรงหลายชนิด เนื่องจากตับมีบทบาทสำคัญในการกรองสารพิษจากเลือด ควบคุมฮอร์โมน และปรับสมดุลสารอาหารในร่างกาย แม้ตับจะทำงานเงียบๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่หากละเลยอาจนำไปสู่ภาวะตับวาย ซึ่งเป็นภาวะที่คุกคามชีวิตได้
แม้จะมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับการล้างพิษตับ แต่ตามข้อมูลจาก Healthline พบว่า การดีท็อกซ์ด้วยวิธีธรรมชาติก็สามารถช่วยส่งเสริมการทำงานของตับและระบบย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากทำอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ โดยแนะนำ 3 วิธีล้างพิษตับแบบง่ายๆ ทำได้ทุกวัน ดังต่อไปนี้
1. ดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวตอนเช้า
การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวไม่เพียงช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย แต่ยังช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำดีของตับ ซึ่งมีความสำคัญในการย่อยไขมันและขับของเสียออกจากร่างกาย เพียงคั้นน้ำมะนาวครึ่งลูก ผสมกับน้ำอุ่น 250 มล. ดื่มก่อนอาหารเช้าประมาณ 20 นาที (หลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาล) แต่หากมีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร ควรดื่มหลังจากทานอาหารว่างเบาๆ
ข้อมูลจาก Nutrition & Metabolism Journal ปี 2023 ระบุว่า สารฟลาโวนอยด์ในน้ำมะนาว โดยเฉพาะ เอริโอซิทริน (eriocitrin) มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชันในตับ และลดระดับเอนไซม์ตับ (ALT และ AST) ได้ดีในผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
2. เพิ่มผักใบเขียวในมื้ออาหาร
ผักใบเขียว เช่น บร็อกโคลี คะน้า และผักโขม อุดมไปด้วยสารกลูโคซิโนเลต (glucosinolates) ซึ่งกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ล้างพิษในตับ อีกทั้งยังให้วิตามิน C, E และโฟเลต ซึ่งช่วยเสริมการป้องกันเซลล์ตับจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ โดยควรปรุงโดยการนึ่ง ลวก หรือผัดไฟอ่อนๆ กับน้ำมันมะกอก ทานในมื้อกลางวันและเย็น ร่วมกับผักหลากสีเพื่อเพิ่มคุณค่าสารอาหาร
รายงานจาก American Institute for Cancer Research (AICR) พบว่า กลุ่มคนที่รับประทานผักตระกูลกะหล่ำมากกว่า 5 ส่วนต่อสัปดาห์ มีการทำงานของตับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายใน 8 สัปดาห์ โดยเฉพาะในด้านการกำจัดสารพิษจากยาและอาหารแปรรูป
3. ขยับร่างกายเบาๆ ตอนเช้า
การออกกำลังกายตอนเช้า เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือยืดเหยียดเบาๆ ประมาณ 20-30 นาที ไม่เพียงดีต่อหัวใจ แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดผ่านตับและระบบน้ำเหลือง ช่วยลำเลียงสารพิษออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรเลือกเดินรับแสงแดดตอนเช้า ฝึกหายใจลึก หรือทำโยคะก่อนมื้อเช้า เพื่อเสริมสร้างสมดุลให้ร่างกาย
ข้อมูลจาก องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า เพียง 30 นาทีของการเคลื่อนไหวในช่วงเช้าก็สามารถลดการสะสมไขมันในตับและเพิ่มความไวของอินซูลิน ซึ่งลดความเสี่ยงต่อภาวะตับอักเสบและโรคไขมันพอกตับที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ได้ อีกทั้งกลุ่มคนที่ออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำตอนเช้า ยังพบว่ามีวัฏจักรการผลิตเอนไซม์ล้างพิษของตับที่สม่ำเสมอ และสามารถกำจัดสารพิษได้เร็วขึ้นถึง 18% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ออกกำลังกาย
ท้ายที่สุด แม้ตับจะเป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดี แต่การดูแลสุขภาพตับตั้งแต่วันนี้ด้วยวิธีธรรมชาติทั้ง 3 ข้อข้างต้น สามารถช่วยให้ตับทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สนับสนุนการทำงานตามธรรมชาติของอวัยวะนี้ ป้องกันโรค ช่วยเพิ่มพลังงานและปรับปรุงการย่อยอาหาร และส่งเสริมสุขภาพโดยรวมอย่างยั่งยืน
- ต่างชาติอวย 6 ผลไม้ “ตับชอบ” ยิ่งกิน ยิ่งช่วยล้างพิษในร่างกาย ไทยมีครบตลอดปี!
- เพิ่งจะรู้! ผู้เชี่ยวชาญจิ้มชัดๆ "ตำแหน่งสิวเตือนปัญหาตับ" มักผุดขึ้นส่วนไหนของใบหน้า?