ระวัง 5 อาหาร “ไตพัง” กินบ่อยๆ ร้ายยิ่งกว่าดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้เฮลท์ตี้อย่างที่คิด!
เตือน 5 อาหารที่ทำร้ายไตเงียบๆ กินทุกวันระวัง! อาจร้ายยิ่งกว่าการดื่มแอลกอฮอล์
แม้อาหารเหล่านี้จะอร่อยและมีประโยชน์หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม แต่หากบริโภคมากเกินไปอาจกลายเป็นภาระต่อไต และเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อมได้โดยไม่รู้ตัว
ไตทำหน้าที่อะไรในร่างกาย?
ไต เป็นอวัยวะสำคัญของระบบขับถ่าย มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่ว อยู่บริเวณด้านหลังของลำตัวทั้งสองข้าง แม้มีน้ำหนักเพียงราว 300 กรัม แต่มีหน้าที่สำคัญมากมาย เช่น กรองของเสียจากเลือด ควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ ควบคุมความดันโลหิต ผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยในการเปลี่ยนวิตามิน D ให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไตเป็นอวัยวะที่บอบบางและเสียหายได้ง่าย หากเรามีพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอาหารบางชนิดที่หากกินมากเกินไปอาจทำให้ไตต้องทำงานหนักเกินความจำเป็น
1. เต้าหู้
แม้เต้าหู้จะเป็นอาหารที่ดีและเป็นแหล่งโปรตีนจากพืช แต่หากรับประทานในปริมาณมากเกินไปทุกวัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ อาจทำให้ไตต้องกรองของเสียที่เกิดจากการย่อยโปรตีนมากขึ้น เช่น ยูเรีย (urea) และ ครีอะตินิน (creatinine) จนเกิดภาวะไตล้า และอาจนำไปสู่การเสื่อมของหน่วยไตในระยะยาวได้
2. หน่อไม้
หน่อไม้มีรสชาติกรอบอร่อยและเป็นที่นิยมในการปรุงอาหาร แต่มีสาร ออกซาเลต ซึ่งอาจตกผลึกในร่างกายและก่อตัวเป็นนิ่วในไตได้ง่าย นอกจากนี้ยังมี พิวรีน ซึ่งอาจเปลี่ยนเป็นกรดยูริก เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเกาต์ และส่งผลต่อการทำงานของไตในระยะยาว
3. กลูเตน (จากหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรืออาหารเจ)
กลูเตน หรือโปรตีนจากข้าวสาลี มักพบในอาหารเจ เช่น หมี่กึ่งสำเร็จรูป หรืออาหารแปรรูปที่เลียนแบบเนื้อสัตว์ กลูเตนมีทั้งโปรตีน ฟอสฟอรัส และโซเดียมในปริมาณสูง ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้ไตต้องกรองสารเหล่านี้มากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาไตอยู่แล้ว
4. ผักดองเค็ม
ดองผัก เช่น ดองผักกาด หรือแตงกวาดอง มักมีปริมาณโซเดียมสูงมากกว่าที่หลายคนคาดคิด หากบริโภคทุกวัน จะทำให้ระดับโซเดียมในเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และทำให้ไตต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อขับโซเดียมออกจากร่างกาย
5. มันฝรั่งอบ
การนำมันฝรั่งไปอบจนผิวเกรียม อาจทำให้เกิดสาร อะคริลาไมด์ (Acrylamide) ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายเรื้อรังต่อเนื้อเยื่อของไตได้ อีกทั้งการเติมเนย ชีส หรือเกลือในปริมาณมากจะยิ่งเพิ่มภาระให้ไตในการกำจัดไขมันและโซเดียมออกจากร่างกาย
- อ็อกซ์ฟอร์ดวิจัยพบ เครื่องดื่มช่วย “ขับไล่” มะเร็งลำไส้ มีติดตู้เย็นทุกบ้าน ถูกกว่าชา-กาแฟ
- เภสัชฯ เตือน "ปลา" ที่จัดเป็นสารก่อมะเร็งระดับ 1 แต่หลายคนยังชอบกิน ติดลิสต์เมนูโปรด!!
ระวังการบริโภคเกินพอดี
อาหารเหล่านี้ไม่ได้เป็นอาหารต้องห้าม แต่สิ่งสำคัญคือ ปริมาณและความถี่ หากกินทุกวัน โดยไม่รู้จักสลับสับเปลี่ยนเมนูหรือควบคุมปริมาณให้เหมาะสม ไตก็จะค่อยๆ สะสมความเสียหายโดยที่เราไม่รู้ตัว
แม้แต่ผู้ที่ทานอาหารเจหรือคิดว่า "ทานของดีอยู่แล้ว" ก็ยังต้องระวัง เพราะอาหารบางชนิดในอาหารเจก็มีฟอสฟอรัสหรือโซเดียมสูงไม่แพ้ของแปรรูป
กินแบบไหนถึงจะดีต่อไต?
กินพอดี ดื่มน้ำเพียงพอ เพิ่มผักใบเขียว ลดเค็ม ลดไขมัน เป็นหลักการง่ายๆ ที่ช่วยถนอมไตให้แข็งแรงไปได้นาน หากรู้จักฟังเสียงร่างกายและหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ไตต้อง "ทำงานหนัก" จนเกินไป ไตก็จะอยู่กับเราไปได้อย่างยาวนาน
กินแค่พออิ่ม 7 ส่วน ก็ทำให้ไตทำงานแค่ 7 ส่วนเช่นกัน สุขภาพดีไม่ได้อยู่ที่กินมาก แต่อยู่ที่กินเป็น
.jpg)