ชายประวัติไร้ที่ติ สัมภาษณ์งานไม่ผ่าน 30 บริษัท ต้นเหตุเพราะคำพูดติดปากคำเดียว

ชายประวัติดี มีความสามารถ แต่สัมภาษณ์งานไม่ผ่าน 30 บริษัท เพราะคำพูดติดปากคำเดียวสั้นๆ ที่คิดว่าพูดแล้วสุภาพ

การสมัครงานและการสัมภาษณ์มีรายละเอียดซ่อนอยู่มาก หลายคนมองว่าประวัติการเรียนหรือการทำงานสำคัญที่สุด แต่จริง ๆ แล้ว ทักษะการพูดและคำติดปากก็มีผลต่อผลลัพธ์เช่นกัน ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นเปิดเผยกรณีชายวัย 48 ปี ที่มีประวัติการทำงานไร้ที่ติ น้ำเสียงน่าฟัง แต่กลับล้มเหลวในการสัมภาษณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกบริษัทปฏิเสธเกือบ 30 แห่ง สุดท้ายพบว่าปัญหามาจากคำติดปาก “ขอบคุณ” ซึ่งทำให้กรรมการสัมภาษณ์รู้สึกเหมือนเขากำลังไม่ได้พูดจากใจจริง

สื่อญี่ปุ่น PRESIDENT Online รายงานว่า มัตสึชิตะ คิมิโกะ อดีตผู้ประกาศข่าวและผู้อำนวยการโรงเรียนสอนการพูด ชี้ให้เห็นลักษณะของคนที่มักไม่ได้รับการตอบรับเข้าทำงาน โดยย้ำว่าคำติดปากบางอย่างอาจส่งผลเสีย และยกตัวอย่างกรณีชายวัย 48 ปีคนนี้

ชายรายดังกล่าวเคยทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ มีทั้งประสบการณ์และบุคลิกที่โดดเด่น น้ำเสียงไพเราะเทียบได้กับนักแสดงชื่อดังฟุคุยามะ มาซาฮารุ แต่ถึงอย่างนั้น เขาเล่าว่า “ตอนสัมภาษณ์ล่าสุด กรรมการยังบอกว่าผมสมบูรณ์แบบ รู้ไปเสียทุกเรื่อง แต่ก็ไม่รับเข้าทำงาน” ทำให้เขาไม่เข้าใจว่าตนเองขาดตรงไหน ทั้งที่ถูกปฏิเสธมาเกือบ 30 บริษัทแล้ว

มัตสึชิตะจึงจัดการ “สัมภาษณ์จำลอง” เป็นเวลา 15 นาที และพบปัญหาหลักทันที คือชายคนนี้มักเริ่มต้นคำตอบทุกครั้งด้วยคำว่า “ขอบคุณ” ไม่ว่าจะถูกถามเรื่องอะไร เขาเชื่อว่าการพูดเช่นนี้เป็นการแสดงความสุภาพ แต่ในความจริงกลับสร้างผลลบ

มัตสึชิตะอธิบายว่า การใช้ “ขอบคุณ” ซ้ำ ๆ อาจทำให้กรรมการสัมภาษณ์รู้สึกเหมือนคำตอบถูกปรุงแต่งเกินไป คล้ายการท่องบทพูด ไม่ใช่ความรู้สึกจริง ส่งผลให้เกิดความรู้สึกห่างเหิน

เธอแนะนำว่า ผู้สมัครสามารถพูด “ขอบคุณ” ได้ แต่ไม่ควรใช้จนเกินพอดี ที่สำคัญกว่าคือการสื่อสารความคิดและประสบการณ์ของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกร่วม จะช่วยสร้างความประทับใจและเพิ่มโอกาสได้รับการตอบรับมากขึ้น