
คนไข้ลดน้ำตาลในเลือดได้ใน 3 เดือน หมอรู้วิธีแล้วกุมขมับ ทำแบบนี้มันเสี่ยงตาย!
คนไข้เบาหวาน กินผักลดน้ำตาลในเลือดได้ภายใน 3 เดือน หมอรู้วิธีแล้วกุมขมับ ทำแบบนี้มันเสี่ยงตาย
คุณหลิน หญิงจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกวินิจฉัยว่าเป็น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพราะไม่เคยสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และแทบไม่กินของหวาน แต่ผลตรวจสุขภาพกลับพบว่าระดับน้ำตาลขณะอดอาหารสูงถึง 8.9 mmol/L และ HbA1c อยู่ที่ 7.5% แพทย์จึงสั่งยาลดน้ำตาลและแนะนำให้ควบคุมอาหาร น้ำหนัก และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
กินกะหล่ำปลีทุกวัน
เมื่อผู้ป่วยเบาหวานจำนวนมากได้ยินว่า “คาร์โบไฮเดรตจะเพิ่มน้ำตาลในเลือด” พวกเขาจะเลิกกินอาหารหลัก หรือแม้กระทั่งกินแต่ผักและผลไม้ทุกวัน
เช่นเดียวกับคุณหลิน เธอตัดสินใจ กินซุปกะหล่ำปลี สลัด และแกงกะหล่ำปลีทุกวัน พร้อมลดปริมาณข้าวลงมาก ครอบครัวเตือนให้ระวังโภชนาการ แต่เธอยืนยันว่า “ถ้าไม่กิน น้ำตาลในเลือดจะไม่ขึ้น”
ผลลัพธ์หลัง 3 เดือน
หลังจาก 3 เดือน เธอไปตรวจซ้ำ คุณหมอเกือบจำเธอไม่ได้ เพราะระดับน้ำตาลในเลือดกลับสู่ปกติ เหลือเพียง 6.2% และลดน้ำหนักได้กว่า 4 กก. แต่คุณหมอเตือนว่า “นี่ไม่ใช่วิธีควบคุมน้ำตาลอย่างปลอดภัยเลย คุณกำลังเสี่ยงชีวิตตัวเอง”
กะหล่ำปลีช่วยลดน้ำตาลได้จริงหรือ?
กะหล่ำปลีเป็นอาหารที่ดี มี น้ำตาลต่ำ ไขมันต่ำ และใยอาหารสูง อุดมด้วยวิตามิน C, โพแทสเซียม และสารพฤกษเคมี แคลอรีต่ำมาก ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล กระตุ้นการขับถ่าย และลดภาระต่อเบต้าเซลล์ตับอ่อน แต่เพียงกะหล่ำปลีไม่สามารถรักษาเบาหวานได้เพียงอย่างเดียว เพราะสาเหตุหลักคือการทำงานของอินซูลินลดลงหรือดื้อต่ออินซูลิน
ผลลัพธ์ชั่วคราวจากการลดคาร์โบไฮเดรตสุดโต่ง
การลดคาร์โบไฮเดรตและแคลอรีมากในเวลาอันสั้น อาจทำให้น้ำตาลในเลือดดูเหมือนดีขึ้น แต่เป็นผลชั่วคราว การขาดสารอาหารในระยะยาวอาจทำให้ระบบเผาผลาญแย่ลงและทำลายตับอ่อน
ความเข้าใจผิดเรื่อง “กินน้อย = น้ำตาลคงที่”
ผู้ป่วยเบาหวานหลายคนเชื่อว่า คาร์โบไฮเดรตทำให้น้ำตาลสูง จึงลดอาหารหลักหรือกินแต่ผักและผลไม้ ระยะแรกน้ำตาลลด แต่ไม่นานร่างกายเริ่มส่งสัญญาณเตือน เช่น นอนไม่หลับ เหนื่อยง่าย มือเท้าเย็น วิตกกังวล และหายใจลำบาก บางคนเกิดน้ำตาลต่ำ เวียนศีรษะ และเหงื่อออก
วิธีควบคุมน้ำตาลอย่างปลอดภัย
- อาหารสมดุล เน้นธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่ว และมันฝรั่ง
- โปรตีนคุณภาพสูง เช่น ไข่ ปลา ถั่วเหลือง และเนื้อไม่ติดมัน
- ไม่ใช่การอดอาหาร แต่เลือกกินอาหารที่เหมาะสม
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
- ไม่กินอาหารหลัก : ทำให้หิวตอนกลางคืน น้ำตาลพุ่งสูง
- กินแต่ผัก ไม่กินเนื้อ : เสี่ยงขาดโปรตีน สูญเสียกล้ามเนื้อ และควบคุมน้ำตาลไม่ดี
- โฟกัสแต่ระดับน้ำตาล ไม่สนใจน้ำหนักและกล้ามเนื้อ : สุขภาพโดยรวมแย่ แม้น้ำตาลจะปกติ
กรณีของคุณหลิน ปรับกลับสู่ความสมดุล
เธอกลับมารับประทานอาหารสมดุล เช่น ข้าวกล้อง ไข่ตอนเช้า ปลาและผักตอนกลางวัน พร้อมเดิน 30 นาทีหลังอาหาร ผลตรวจซ้ำพบว่าน้ำตาลคงที่และสภาพจิตใจดีขึ้น แพทย์สรุปว่าวิธีกินกะหล่ำปลีอย่างเดียวทำให้ร่างกายเครียดเกินไป การกินสมดุลและออกกำลังกายเป็นวิธีระยะยาวที่ปลอดภัย